วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ดอกไม้ และเธอ

สวัสดี...

หลังจากหายไปนานเพราะว่ายุ่งๆ ในที่สุดเราก็กลับมาว่างอีกครั้ง (คงเป็นช่วงเวลาสั้นๆ T^T) ไหนๆก็ไหนๆละ กลับเข้าสู่หนทางการเขียน (ที่คิดว่าชอบนักชอบหนาา !) ดีกว่า เป็นนักเขียนก็ต้องมีเรื่องเล่าใช่มะ งั้นขอเล่าเรื่องที่เพิ่งจะผ่านไปเมื่อวานละกัน จริงๆคือจำเรื่องก่อนหน้านั่นไม่ได้ 555 ย้อนไปแค่วันเดียวพอ..

เดี๋ยวๆ จริงๆแล้วมันต้องย้อนไปนานกว่านั้นสิ เรื่องราวเริ่มต้นที่ เพื่อนในกลุ่ม บิวบิ้ว ครูสาวคนสวย จะเข้ารับปริญญาที่ มศว แต่มีแค่วันเดียวที่เพื่อนจะซ้อมที่ อโศก นอกเหนือจากนี้เพื่อนเข้าป่า เข้าดงไปองครักษ์ค่ะ เราเลยตัดสินใจว่าต้องไปร่วมยินดี วันที่เพื่อนซ้อมใน กทม นี่ล่ะ วันอื่นหนูไปไม่ไหวข่าา

เอาล่ะจะเริ่มเข้าเรื่องละ เวลาไปยินดีเราก็ควรจะมีของขวัญติดไม้ติดมือไปใช่มั้ย จะซื้อตุ๊กตาก็รู้สึกว่าเพื่อนโตละ จะซื้อเครื่องสำอางค์ก็กลัวเพื่อนจะมีละ คิดว่าจะซื้อดอกไม้ให้ ก็ดูธรรมดาไป แต่จากการที่เรียนจัดดอกไม้มาโดยตลอดกับอาจารย์ยู (ยูทูป) เลยตัดสินใจว่าจะจัดดอกไม้ไปให้เพื่อน

คิดได้ดังนั้นจึงไปหาซื้อดอกไม้ที่ตลาดแถวบ้าน วางแผนดีมากจนขนาดที่ไม่รู้ว่าร้านอยู่ที่ไหน แต่จะกลัวทำไม เรามีคุณนายจอยแผนที่เทวดา จะไปที่ไหนขอให้บอก ไปครั้งเดียวก็จำได้ละ มารดาข้าพเจ้าเอง เมื่อได้พิกัดมาเรียบร้อยก็ไปยืนจดๆจ้องๆอยู่หน้าร้านขายดอกไม้เพราะไม่รู้จะใช้ดอกไหนอะไรยังไง แต่สุดท้ายก็หลับหูหลับตาหยิบมาทั้งหมดสามชนิด พร้อมกับซื้อกระดาษสา ตาข่ายสี แล้วก็โบว์ 2 ดอก เพราะจัด 2 ช่อ

กลับมาจากตลาดเย็นนั้นก็เอ้อระเหยลอยชายอยู่สักพัก รอพิรุณพร่ำรัก ละครช่อง 33 HD มาสักพักค่อยเริ่ม เพราะจะได้ตะล่อมให้คุณนายจอยช่วยทำไปด้วยดูละครไปด้วยได้ อิอิ แผนสูง แต่โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบเรื่องนี้ รู้สึกว่าพระเอกนางเอกเล่นแข็งๆ ไม่ชอบไดอะล็อกด้วย แต่คุณนายเขาดูเราก็เปลี่ยนช่องไม่ได้ ตัวละครที่ชอบเรื่องนี้มีอยู่ตัวเดียว ก็คือ คอลลิน เพราะน้องคนที่เล่นน่าตาน่ารักดี ู^^

ระหว่างดูละครไปก็จัดดอกไม้ไป เหมือนจะดี ดูชิล ดูสโลไลฟ์ แต่พอภาพตัดมาเป็นความจริง มันไม่สวยๆอย่างที่คิด ดอกไม้กระจัดกระจาย ใบไม้เกลื่อนเต็มพื้น ถามว่าจัดเป็นไหม?? ก็ตอบเลยว่า ม่ายยย T^T ถึงจะเรียนกับอาจารย์ยูมาสักพัก แต่พูดเลยว่าทฤษฎีกับปฏิบัติจริงนั้นไม่เหมือนกัน เราก็ได้แต่จัดไปมองไป ซ้ายดี? ขวาดี? บนล่าง เฉียงขึ้นเฉียงลง?? ก็ได้แต่อาศัยความรู้สึกของตัวเองเอาว่าจัดแบบไหนน่าจะดี จัดไปจัดมาก็ได้ออกมา 2 ช่อพอดิบพอดี  ดอกไม้แทบไม่พอ 55 ซื้อมาน้อยค่ะ เบี้ยน้อยหอยสังข์ สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการจัดดอกไม้ครั้งนี้คือ ซื้อเอาถูกกว่าและสวยกว่าา!! 555555 เอาน่าา ของเราก็งามไม่หยอกก หราาาา!!

เอารูปมาอวด!! เอ้ยย.. มาให้ชมค่ะ





ถึงทั้งสองช่อจะดูรกยิ่งกว่าป่าอะเมซอน แต่สำหรับการจัดครั้งแรก เราก็ภูมิใจที่สุด มองเองก็สวยเอง ก็ไม่ได้อะไรมาก แค่อวดคนอื่นไปทั่ว 5555 บอกเพื่อนที่ไปทุกคนว่า จะซื้ออะไรก็ซื้อ แต่ไม่ต้องซื้อดอกไม้นะ เดี๋ยวของเราไม่เด่น เป็นไงคะคุณผู้ชมมม ร้ายกว่านี้ก็โสมิกาละค่ะ (จากละครเรื่องเพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ)

เราไป มศว โดยลง BTS สถานีอโศก แล้วเดินออกประตู 6 เดินมาขึ้น TAXI หน้าซอยสุขุมวิท 23 เพราะคิดว่ารถไม่น่าจะติดมาก แล้วก็ใกล้ มศว กว่าอีกทางนึง แต่ความจริงก็คือ รถก็ติดทุกทางล่ะค่ะ
แต่เราก็ไม่ได้รีบมาก เพราะไปกันประมาณ 5 คน ถ้าสายก็สายกันหมด มีพวกค่ะ (ร้ายไปอีกก)

เมื่อถึงมหาลัยเราก็เจอกับบรรยากาศไม่ต่างจากที่คิดเท่าไหร่ ซึ่งถ้าใครเคยไปงานรับปริญญาที่ต่างๆก็คงจะพอนึกภาพออก คือคนเยอะมาก เวลาเดินก็ต้องพยามเกาะแข้งเกาะขา มองซ้ายมองขวาเอาไว้ ไม่งั้นอาจจะพลัดหลงกับเพื่อนที่ไปด้วยกันได้ ส่วนสัญญาณโทรศัพท์น้านนน บางค่ายก็ลาหายตายสนิทค่ะ ทางที่ดีก็พยายามอย่าแยกจากเพื่อนดีกว่าเดี๋ยวจะหากันไม่เจอ

แต่ถึงเราจะไม่หลงกับเพื่อนที่มาด้วยกัน แต่เราก็หาบัณฑิตไม่เจออยู่ดี หลังจากเดินโง่งมอยู่พักใหญ่ก็ได้เจอกับบัณฑิตสุดสวย เราก็ไม่รอช้า รีบเอาดอกไม้ไปอวดทันที ตอนแรกบัณฑิตก็ไม่มีทีท่าอะไรกับดอกไม้ของเรา แต่พอบอกว่าเราจัดเองนะ พร้อมกับยัดเยียดความรู้สึกตื่นเต้นใส่เข้าไป บัณฑิตก็ดูจะตื่นเต้นขึ้นมา แค่นี้ก็พอละ มิชชั่นคอมพลีตเต็ดมากมาก พอเห็นคนชื่นชมกับสิ่งที่เราตั้งใจทำ มันรู้สึกดีใจ ชื่นใจบอกไม่ถูก ถึงเพื่อนทุกคนจะชมตามมารยาทก็ตาม แต่เราก็จะมองข้ามๆไป ถือว่าเขาชมจริงๆละกัน 5555

เรื่องราวเหมือนจะจบ แต่มันไม่จบอยู่แค่นั้นครัชชชคุณผู้โช้มมมมม ระหว่างเดินตามบัณฑิตสาวสวยไปหาเพื่อนบัณฑิตอีกคน และในระหว่างที่เราเห็นเพื่อนบัณฑิตอีกคนแล้วและกำลังจะเข้าไปทัก สายตาก็ดันไปป๊ะเข้ากับแฟนเก่า!! เข้าใจคำว่าชะงักกลางอากาศในทันทีค่ะคุณณ

จริงๆจะเรียกว่าแฟนเก่าก็ไม่ถูกซะทีเดียว ก็เป็นแค่คนที่เคยคุยๆกัน แล้วหายไปจากกันแบบงงๆ อะไรไม่เท่าเพื่อนที่ไปด้วยกัน พร้อมใจกันหันมามองเราบ้าง สะกิดบ้าง ทักบ้างว่าเห้ยๆ ตากล้องอ่ะ แล้วพยักเพยิดให้ดู ความรู้สึกตอนนั้นคืออยากจะบอกเพื่อนมากว่า เห็นนานละค่ะเพื่อน เห็นเป็นอันดับสองรองจากบัณฑิตเลยค่ะ ตอนนั้นก็ทำหน้าไม่ถูก แต่ก็พยายามบอกเพื่อนว่าเฉยไว้ค่ะเพื่อน เฉยไว้  คือเรานี่นิ่งมากทำเหมือนไม่มีอะไร แต่เพื่อนมักจะไม่เป็นอย่างนั้น เสมออ!! เพื่อนมักจะตื่นเต้นกว่าเราเสมอค่ะ แล้วจะหวังให้เพื่อนทำเนียน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา ไม่มีทาง!! ถ้าคุณคิดว่าเพื่อนคุณจะทำตัวโปรเฟสชั่นนอลอย่างคุณได้ล่ะก็ เรื่องนั้นไม่เคยเกิดขึ้นค่ะ!!!!

จริงๆก็ลังเล ว่าจะเข้าไปทักดีมั้ย หรือจะทำเป็นไม่รู้จักกันดี แต่คิดไปคิดมา เราก็ไม่ได้เกลียดอะไรกัน ถึงเราจะเป็นแฟนกันไม่ได้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้ ของแบบนี้ถ้ามันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ตบมือข้างเดียวกี่ครั้งมันก็ดังไม่ได้ เพลงปานก็มา ==' เราก็เลยคิดว่าจะเข้าไปทัก หลังจากที่ทำเป็นมองไม่เห็นไปพักใหญ่ แต่พอหันไปอีกทีนางก็หายไปละ เอิ่มมม ช้าไปสินะ เข้าทำนอง เมื่อเขามาฉันจะไป!! แต่ฉันยังไม่ได้ไป เธอไปซะงั้น!!

เรื่องราวก็ผ่านไปแบบงงๆ จริงๆคนที่เคยรู้สึกดีๆต่อกัน เจอกันอีกทีก็น่าจะคุยกันดีๆเนอะ เพราะเราก็คงไม่มีโอกาสได้เจอกันบ่อยมาก การที่เพื่อนของเรารู้จักเราทั้งสองฝ่ายก็คงจะลำบากใจไม่น้อยกับสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้ แต่สำหรับเรา เราโอเคนะที่เธอจะอยู่ตรงนั้น ไม่เห็นต้องหนีหายไปเลย ทำแบบนี้เพื่อนลำบากใจมั้ยล่าา เราไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว เธอก็เป็นแค่ความทรงจำอย่างหนึ่งของเรา ความทรงจำสีจางๆ เลือนลางเต็มที

การที่เราไม่ใช่สำหรับใครบางคนไม่ได้หมายความว่าเขาหรือเราเป็นคนไม่ดี มีโอกาสเจอกันก็น่าจะยิ้มให้กัน คุยกันซะมากกว่า เพราะว่าเราก็ไม่ได้เกลียดกันนี่เนอะ เราไม่ได้เกลียดเธอนะ หรือเธอเกลียดเรา ไม่นะะ!! ไม่น่าพลาดด!! 555555

มีโอกาสก็ทำดีต่อกันไว้ดีกว่า เราไม่รู้ว่าชีวิตของเราในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เนอะะะ...




ตัวฉัน... เมื่อนึกย้อนไปถึงเรื่องราวที่ผ่านมา
5/6/59



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น