tag:blogger.com,1999:blog-74021674171142152182024-03-12T18:08:09.974-07:00ME MY MIND เรื่องราวธรรมดาของมนุษย์โลก สิ่งที่อยากบ่น ข้อความที่อยากระบาย บทความที่เคยเขียน เรื่องที่เกิดขึ้นจริง คำถาม ข้อคิด มุมมองการใช้ชีวิต การกิน การเที่ยว เมนูอาหาร การทำกับข้าว หมา แมว เรื่องที่กำลังสนใจ อะไรก็แล้วแต่ที่วนเวียนอยู่รอบตัวผู้หญิงคนหนึ่ง คือเนื้อหาในบล็อกๆนี้ :)Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/16393642482858948985noreply@blogger.comBlogger11125tag:blogger.com,1999:blog-7402167417114215218.post-9020319078042057522016-10-31T09:14:00.002-07:002016-10-31T20:55:46.846-07:00แชร์ประสบการณ์ การเดินทางและการเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง<div id="title" style="color: #f26522; font-size: 13px; font-weight: bold; line-height: 20px; margin-bottom: 15px; margin-top: 15px;">
แชร์ประสบการณ์ การเดินทางและการเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง</div>
<div id="blog_detail" style="width: 436px;">
<br />
<br style="background-color: #f5f5dd; color: #222222; font-family: tahoma; font-size: 13.3333px;" />
<br style="font-family: Tahoma;" />
<span style="background-color: white; font-family: "tahoma"; font-size: 13px;"> เมื่อวันอาทิตน์ที่ 30 ตุลาคม 2559 เราและครอบครัวได้เดินทางไปสนามหลวงเพื่อเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตามที่มีพระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป</span><br />
<div style="font-family: Tahoma;">
<br /></div>
<div style="font-family: Tahoma;">
เราเดินทางจากสุพรรณบุรี และเนื่องจากไม่ชำนาญเส้นทางมากนักจึงตัดสินใจจอดรถยนต์ส่วนตัวไว้ที่ห้าง Central Westgate และต่อรถ Shuttle Bus ที่รัฐจัดไว้รับส่งฟรีไปยังสนามหลวง เราออกจากบ้านไม่เช้ามาก ถึง Central ก็เป็นเวลา 7 โมงเศษๆ และถึงแม้จะยังไม่ใช่เวลาเปิดห้าง แต่ทางห้างก็บริการเปิดที่จอดรถให้สำหรับประชาชนที่ต้องการเดินทางไปสนามหลวง ทั้งยังมีรถบริการรับส่งจากที่จอดรถของห้างไปยังจุดจอดรถ Shuttle Bus อีกด้วย ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ</div>
<div style="font-family: Tahoma;">
<br /></div>
<div style="font-family: Tahoma;">
จึงขอแนะนำ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง และอาจช่วยลดปัญหาการจราจรที่อาจติดขัดมากให้น้อยลงได้ สำหรับคนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดโดยเฉพาะเส้นทางเหนือหรือทางตะวันตก ทั้งที่ชำนาญเส้นทางก็ดีหรือไม่ชำนาญเส้นทางก็ดี สามารถนำรถยนต์ส่วนตัวไปจอดไว้ที่ ห้าง Central Westgate และต่อรถ Shuttle Bus ไปยังสนามหลวงจะดีกว่า </div>
<div style="font-family: Tahoma;">
<br /></div>
<div style="font-family: Tahoma;">
ประชาชนที่มาจากเส้นทางอื่นก็<span style="color: #ff5a94;">ควรตรวจสอบจุดบริการจอดรถรวมถึงรถรับส่งที่รัฐจัดไว้บริการ </span>ทั้งนี้รัฐจะจัดไว้ตามหัวเมืองหลักของ กทม. เพื่่อความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทางเข้าถวายสักการะพระบรมศพ หรือการเดินทางไปสนามหลวง</div>
<div style="font-family: Tahoma;">
<br /></div>
<div style="font-family: Tahoma;">
เราถึงบริเวณสนามหลวงประมาณ 8.00 น. เวลานั้นคนค่อนข้างเยอะแล้ว ท้ายแถวที่ต่อคิวเข้าไปถวายสักการะ อยู่ใจกลางท้องสนามหลวง ระบุได้จากบอลลูนบอกตำแหน่งหางแถว หรือคอยฟังจากเสียงประชาสัมพันธ์ หรืออาจจะถามได้จากเจ้าหน้าที่ที่คอยให้บริการช่วยเหลืออยู่ </div>
<div style="font-family: Tahoma;">
<br /></div>
<div style="font-family: Tahoma;">
เรายืนต่อแถวอยู่กลางสนามท่ามกลางแสงแดดสักพัก จึงได้เริ่มเดินเข้าไปในร่มตามทางเดินรอบสนามหลวงฝั่งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ฉะนั้นควร<span style="color: #ff1f1f;">เตรียมร่มกันแดด</span>ไปด้วยจะดีที่สุด เพราะได้ใช้ตลอดทั้งวัน</div>
<div style="font-family: Tahoma;">
<br /></div>
<div style="font-family: Tahoma;">
ด้วยจำนวนประชาชนที่เดินทางมานับหมื่นคนทำให้ต้องต่อแถวเพื่อเข้าวังเป็นเวลานานมาก จึงแนะนำให้ใส่<span style="color: #2e76ff;">รองเท้าที่สบาย</span>เท้า ที่เหมาะกับการยืนรอเป็นเวลานาน <span style="color: #0058ff;">แต่ต้องเหมาะสมและถูกระเบียบตามที่สำนักพระราชวังได้ประกาศไว้ (ใส่รองเท้าสีดำหุ้มส้น)</span></div>
<div style="font-family: Tahoma; font-size: 13px;">
<span style="color: #0058ff;"><br /></span></div>
<div style="font-family: Tahoma;">
การแต่งกายก็ควรถูกต้องเหมาะสมตามประกาศของสำนักพระราชวังเช่นกัน แต่งกายชุดดำและสุภาพ โดยเฉพาะ<span style="color: #1012ff;">ผู้หญิงที่ต้องสวมกระโปรงเลยเข่าเท่านั้นห้ามใส่กางเกง</span> ถึงแม้สำนักพระราชวังจะเตรียมชุดที่เหมาะสมไว้ให้บางส่วนสำหรับคนที่แต่งกายผิดระเบียบ แต่นั่นก็ทำให้เสียเวลามากขึ้นไปอีก ลองคิดดูว่ายืนรอมานานหลายชั่วโมงแต่ไม่สามารถเข้าได้เพราะแต่งกายไม่ถูกต้อง <span style="color: #5d10ff;">ดังนั้นเราควรเตรียมตัวเองให้พร้อม แต่งกายให้ถูกต้องเหมาะสมเพื่อประโยชน์ของตัวเราเอง </span><span style="color: #0f0f0f;">และเผื่อเกิด</span>เหตุสุดวิสัยเราก็ควรเตรียมบัตรประชาชนไว้ด้วย (ในการเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้ต้องใช้บัตรประชาชนค่ะ)</div>
<div style="font-family: Tahoma; font-size: 13px;">
<span style="color: #0058ff;"><br /></span></div>
<div style="font-family: Tahoma;">
ระหว่างรอเราได้มีโอกาสคุยกับคุณยายคนหนึ่งที่นั่งพักอยู่ข้างเต๊นท์ ยายเล่าว่ายายเข้าไปถวายสักการะตั้งแต่ 8 โมงเช้า เพราะยายไปต่อแถวตั้งแต่ตีสามตีสี่ ยายเลยออกมาเร็ว ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 4-5 ชั่วโมง ผิดกับเราซึ่งมาต่อแถวประมาณ 8 โมงเช้า ได้เข้าถวายสักการะตอนเกือบ 6 โมงเย็น <span style="color: #ff10b3;">รวมแล้วยืนต่อคิวเกือบ 10 ชั่วโมง</span>ได้ </div>
<div style="font-family: Tahoma;">
<br /></div>
<div style="font-family: Tahoma;">
อาจเป็นเพราะเป็นวันแรกๆที่เปิดให้เข้าไปเบื้องหน้าพระบรมโกศ ด้วยคนที่มาเยอะมากๆ ด้วยการจัดการที่อาจมีติดขัดบางส่วน มีความสับสนในบางช่วง แต่ถึงอย่างไรก็เห็นใจและอยากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ทำงานกันอย่างเข้มแข็ง รวมถึงบุคคลทั่วไป จิตอาสาที่คอยมาช่วยเหลือประชานชนทั่วไป ทั้งที่นำน้ำและอาหารมาแจก ช่วยเก็บขยะ หรือบริการด้านสุขภาพต่างๆ และอีกมากมาย</div>
<div style="font-family: Tahoma;">
<br /></div>
<div style="font-family: Tahoma;">
อยากจะบอกว่ามันต้องใช้ความอดทนมากจริงๆในการต่อแถวเพื่อเข้าถวายสักการะ ตลอดเวลาเกือบสิบชั่วโมง เราได้นั่งน้อยมาก เพราะแถวขยับเกือบตลอดในช่วงครึ่งวันแรก ถึงแม้จะขยับแค่เพียงนิดหน่อยก็ตาม บวกกับการที่พื้นเปียกจึงกลัวกระโปรงจะเปื้อน ดังนั้นข้อแนะนำอีกข้อก็คือ <span style="color: #20ff1f;">ควรเตรียมผ้ารองนั่งผืนเล็กๆ หรือเก้าอี้พับเก็บได้ตัวเล็กๆจะดีกว่า</span> โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่ควรยืนนานๆ </div>
<div style="font-family: Tahoma;">
<br /></div>
<div style="font-family: Tahoma;">
ยอมรับว่ามีหลายครั้งที่เราอยากยอมแพ้ อากาศก็ร้อน แถมยืนนานจนปวดฝ่าเท้าไปหมด มันเกินกว่าคำว่าเมื่อยไปอีก และถึงแม้จะมีอาหารและน้ำคอยแจกจ่ายตลอดเวลาที่ยืนในแถว ความเหนื่อยล้าก็ทำให้อยากอาหารน้อยมาก มีบางช่วงที่อาการไม่ค่อยดีก็รีบขอแอมโมเนีย หรือยาดมจากจิตอาสา ทำให้บรรเทาไปได้บ้าง แต่ถึงอย่างไรเราก็ไม่ได้ยอมแพ้ถึงแม้จะต้องสู้กับใจตัวเองอย่างมาก อย่างไรก็ดี<span style="color: #ff10b3;">สำหรับคนที่รู้สึกว่าไม่ไหวจริงๆก็ไม่ควรฝืน </span>เพราะหากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นมาคงจะไม่ดี</div>
<div style="font-family: Tahoma;">
<br /></div>
<div style="font-family: Tahoma;">
ต้องยอมรับว่าการไปต่อแถวนั้นมีน้ำท่าอาหารอุดมสมบูรณ์มาก เพเพราะบุคคลและหน่วยงานต่างๆมาแจกมากมาย แต่<span style="color: #1012ff;">ระหว่างต่อแถวไม่ควรดื่มน้ำเยอะหรือทานอาหารมากเกินไป </span><span style="font-size: x-small;">เพราะห้องน้ำอาจอยู่ไกลจากแถว</span> และอาจต้องต่อคิวเข้าห้องน้ำนาน ทำให้อาจพลัดหลงกับเพื่อนหรือญาติได้ จึงไม่ควรออกจากแถวบ่อยนัก</div>
<div style="font-family: Tahoma;">
<br /></div>
<div style="font-family: Tahoma;">
บางคนอาจมาคนเดียว ซึ่งเราไม่แนะนำนะเพราะว่ามากันหลายคน หรืออย่างน้อยมีเพื่อนสักคนก็จะดีกว่า จะได้มีคนคอยดูแลกัน หรือจองคิวให้หากจำเป็นต้องออกจากแถวเช่นไปเข้าห้องน้ำ</div>
<div style="font-family: Tahoma;">
<br /></div>
<div style="font-family: Tahoma;">
ในส่วนของการกลับบ้าน เมื่อเดินออกจากวังก็จะมีบริการมอเตอร์ไซค์จิตอาสารับส่งฟรี แต่หลายคนก็เลือกที่จะเดินเพราะไม่ต้องการรอคิว การเดินทางกลับนั้นถ้าไม่แน่ใจว่าต้องกลับไปขึ้นรถที่จุดไหนก็สามารถถามเจ้าหน้าที่ได้ แต่ทางที่ดีก็ควรศึกษาเส้นทางไปหรือกลับไว้ก่อน ในส่วนของรถกลับ Central Wesgate ก็จะอยู่บริเวณหน้ากองสลาก รถบางคันอาจจะจอดส่งรายทางด้วย แต่บางคันจอดแค่ปลายทางอย่างเดียวเพราะฉะนั้นก่อนขึ้นก็ควรถามให้ดี รวมถึงบางคันอาจจะวนไปจอดหน้า Central Wesgateให้เลย แต่ก็มีบางคันที่ไม่วน เราอาจจะต้องลงฝั่งตรงข้ามแล้วเดินข้ามสะพานลอยไป ทางที่ดีก็ควรถามคนขับรถก่อนขึ้นจะดีกว่า</div>
<div style="font-family: Tahoma;">
<br /></div>
<div style="font-family: Tahoma;">
การเอื้อเฟื้อต่อกัน มีน้ำใจให้กันในเวลาเช่นนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ยิ่งไม่ควรเห็นแก่ตัวเอารัดเอาเปรียบกัน มีจังหวะที่ชุลมุล แอบมีคนเข้ามาแทรกในแถว มีคนแซงคิวกันซึ่งเป็นสิ่งไม่ดีเลย จริงๆแล้วดีหรือไม่ดีเรารู้อยู่แก่ใจ ลองนึกว่าบางคนรอเป็นสิบชั่วโมงอาจจะไม่ได้เข้าด้วยซ้ำ เรามาถึงก็มาแทรกแล้วได้เข้าการกระทำที่เบียดเบียนคนอื่นจะเป็นสิ่งที่ดีได้เช่นไร อย่างไรก็ดีเราควรประพฤติตัวให้เหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อเข้าเขตพระราชวังก็ควรอยู่ในความสงบ สำรวมกาย วาจา ใจ </div>
<div style="font-family: Tahoma;">
<br /></div>
<div style="font-family: Tahoma;">
ท้ายที่สุดนี้ขอเป็นกำลังใจให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆคน ประชาชนทุกๆคนที่ยืนรอเพื่อจะเข้าไปถวายสักการะพระบรมศพ ความรู้สึกความประทับใจของเราเมื่อได้เข้าไปอยู่เบื้องหน้าพระบรมโกศของพระเจ้าอยู่หัวมันไม่อาจบรรยายออกมาได้หมด ทั้งตื้นตัน ปลื้มใจ เศร้าใจ ความรู้สึกหลายอย่างประดังประเดเข้ามา ยิ่งเมื่อนึกถึงสิ่งที่ท่านทำให้ปวงชนชาวไทย เราทำอย่างไรก็คงตอบแทนท่านไม่หมด แต่เราก็จะทำ หากรู้ตัวว่ามีประโยชน์ต่อคนอื่นแค่เพียงน้อยนิด เราก็จะทำให้เต็มหน้าที่เต็มความสามารถของเรา</div>
<div style="font-family: Tahoma;">
<br /></div>
<div style="font-family: Tahoma;">
ขออภัยหากเขียนผิดพลาดประการใด ตั้งใจจะเขียนเล่าประสบการณ์ของตัวเอง และสิ่งที่คิดว่าอาจจะมีประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมโกศ</div>
<div style="font-family: Tahoma;">
<br /></div>
<div style="font-family: Tahoma;">
สิ่งใดดี สิ่งใดประเสริฐ ขอให้สิ่งนั้นประสบผลสำเร็จ</div>
<div>
<br /></div>
</div>
Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/16393642482858948985noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7402167417114215218.post-83758117830005384282016-09-15T06:52:00.001-07:002016-09-15T06:52:55.772-07:00การศึกษาประวัติศาสตร์ผ่านวรรณกรรม<div class="MsoNoSpacing" style="text-align: left;">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 20.0pt;"><br /></span></div>
<div class="MsoNoSpacing" style="text-align: left;">
<span style="font-family: Angsana New, serif; font-size: large;">ผลงานเขียนต่อไปนี้ เป็นเพียงชิ้นงานหรือบทความเล็กๆที่ตัวผู้เขียนเองเคยเขียนในขณะที่ยังเรียนอยู่ เป็นส่วนหนึ่งของวิชาที่ได้เคยศึกษา จำได้ว่าแรงบันดาลใจในการเขียนชิ้นงานเรื่องนี้มาจากการที่เดินในงานสัปดาห์หนังสือแล้วได้หนังสือนิยายมือสองมาหนึ่งเล่ม เมื่อลองอ่านดูแล้วปรากฏว่าเป็นนิยายที่สนุก เนื้อเรื่องน่าติดตาม ทำให้เกิดความสนใจที่จะไปศึกษาเบื้องหลังทางประวัติศาสตร์ต่อไป ถึงแม้เนื้อหาของบทความจะยังขาดตกบกพร่องอยู่มาก และถึงแม้เนื้อหาสาระจะเบาบางตื้นเขินแต่ก็อยากนำมาแบ่งปันให้เห็นว่า การศึกษาประวัติศาสตร์ผ่านฉากหลังของนิยายที่เราชื่นชอบนอกจากจะได้รับอรรถรสในการอ่านแล้วยังได้ความรู้ประดับตัวเพิ่มขึ้นอีก ถึงอย่างไรก็ขอขอบคุณผู้เขียนนิยาย และเจ้าของข้อมูลบางประการที่ปรากฏอยู่ในบทความไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ (ยอมรับตามตรงว่าเขียนเมื่อนานมาแล้ว หา Ref ไม่เจอจริงๆ ซ้ำยังจำไม่ได้อีกซะนี่ ยังไงก็ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ)</span></div>
<div align="center" class="MsoNoSpacing" style="text-align: center;">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 20.0pt;"><br /></span></div>
<div align="center" class="MsoNoSpacing" style="text-align: center;">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 20.0pt;"><br /></span></div>
<div align="center" class="MsoNoSpacing" style="text-align: center;">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 20.0pt;">การศึกษาประวัติศาสตร์ผ่านวรรณกรรม</span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 20.0pt;"><o:p></o:p></span></div>
<div align="center" class="MsoNoSpacing" style="text-align: center;">
<br /></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">ประวัติศาสตร์ที่ศึกษา </span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">: <span lang="TH">ศึกษาประวัติศาสตร์อินโดนีเซียในช่วงปลายศตวรรษที่ </span>19<o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">วรรณกรรมใช้ศึกษา </span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">: <span lang="TH">แผ่นดินของชีวิต ของ ปราโมทยา อนันตา ตูร์<o:p></o:p></span></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<br /></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> การศึกษาประวัติศาสตร์คือการศึกษาประวัติความเป็นมาของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ซึ่งไม่ได้กำหนดอยู่เพียงแค่การศึกษาอยู่ในตำราวิชาการเท่านั้น
แต่สามารถศึกษาผ่านงานขียน
หรือวรรณกรรมต่างๆซึ่งช่วยให้การศึกษาประวัติศาสตร์ไม่น่าเบื่อ และมีสีสันมากขึ้น</span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<br /></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> แผ่นดินของชีวิต
หรือชื่อในภาษาอังกฤษ </span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 22.0pt;">This
Earth of Mankind</span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">
<span lang="TH">เป็นผลงานของปราโมทยา อนันตา ตูร์ นักเขียนชาวอินโดนีเซียผู้มีผลงานที่ได้รับการแปลมากกว่า
</span>30 <span lang="TH">ภาษา
แผ่นดินของชีวิตเป็นนวนิยายเรื่องหนึ่งในชุดจตุรภาคแห่งเกาะบูรู
ซึ่งได้รับการชื่นชมว่าเป็น</span><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">นวนิยายที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับลัทธิอาณานิคม</span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<br /></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> </span><b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 20.0pt;">ประวัติของผู้แต่ง</span></b><b><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 20.0pt;"><o:p></o:p></span></b></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> </span></b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">ปราโมทยา
อนันตา ตูร์ เกิดที่เมืองบลอรา เป็นเมืองเล็กบนเกาะชวาเมื่อปี </span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">1925 <span lang="TH">ในสมัยที่อินโดนีเซียยังเป็นอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์
บิดาของเขาเป็นนักชาตินิยม และมารดาเป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี</span><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> ปราโมทเข้าร่วมขบวนการต่อต้านลัทธิอาณานิคมตั้งแต่อายุยังน้อย
และถูกรัฐบาลดัตช์จับกุมคุมขังไว้ระหว่างปี </span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">1947 – 1949 <span lang="TH">อันเป็นช่วงที่เขาเริ่มมีผลงานเขียนยุคแรกๆ
ผลงานเรื่องแรกคือ </span></span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 22.0pt;">The
Fugitive</span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> <span lang="TH">หลังการต่อสู้เพื่อเอกราชประสบความสำเร็จ
เขาได้รับการปล่อยตัวและตลอดระยะเวลา </span>15 <span lang="TH">ปีภายใต้รัฐบาลซูการ์โน
เขาทำงานเป็นนักหนังสือพิมพ์ บรรณาธิการ และสอนวรรณคดีในมหาวิทยาลัย ในช่วงนี้เขาเริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อินโดนีเซีย
ซึ่งใช้เป็นพื้นฐานในการเขียนแผ่นดินของชีวิตในเวลาต่อมา</span><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> ในปี </span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">1965 <span lang="TH">ปราโมทถูกจับขังในข้อหาเป็นคอมมิวนิสต์
หลังถูกขังอยู่ </span>4 <span lang="TH">ปี เขาถูกส่งตัวไปที่เกาะบูรู และที่แห่งนี้เองที่เป็นทั้งบ้านและที่ที่ปราโมทสร้างผลงานของเขาขึ้นมา</span><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> ในช่วงแรกเขาสร้างผลงานโดยการเล่าปากต่อปากให้เพื่อนนักโทษฟัง
จนกระทั่งในปี </span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">1973
<span lang="TH">พศดียอมอนุญาตให้เขาเขียนหนังสือลงบนกระดาษ</span><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> ในปี </span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">1979 <span lang="TH">ปราโมทถูกปล่อยตัวจากคุก
แต่ก็ถูกกักบริเวณจนกระทั่งปี </span>1999 <span lang="TH">เขาได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก
เพื่อไปเปิดตัวหนังสือ </span></span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 22.0pt;">The Mutes</span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> </span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 22.0pt;">Soliloquy </span><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">ในสหรัฐอเมริกา</span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"><o:p></o:p></span></div>
<div align="center" class="MsoNoSpacing" style="text-align: center;">
<br /></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> </span><b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 20.0pt;">เนื้อเรื่องย่อ</span></b><b><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 20.0pt;"><o:p></o:p></span></b></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> แผ่นดินของชีวิตเป็นตอนแรกของนวนิยายชุดจตุรภาคแห่งเกาะบูรู
เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับการตื่นขึ้นของสำนักชาตินิยมในชาวพื้นเมือง โดยเฉพาะ
มิงเก ตัวละครหลักของเรื่อง มิงเก คือ นักเรียนชาวมัธยมปลายชาวพื้นเมืองที่ได้รับโอกาสเข้าไปเล่าเรียนวิทยาศาสตร์และวิชาความรู้ต่างๆในโรงเรียนของชาวดัตช์หรือเอชบีเอสที่ตั้งอยู่ที่เมืองสุราบายา
โดยปกติแล้วเอชบีเอสจะสงวนไว้ให้ชาวดัตช์ หรือปรียายีเท่านั้น
มิงเกจึงใช้เส้นสายของยายซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์เก่าทำให้ได้เข้าไปเรียนในที่แห่งนี้</span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> ทัศนคติของมิงเกในแผ่นดินของชีวิตนี้เริ่มต้นด้วยการเป็นคนที่นิยมตะวันตกอย่างมาก
ชื่นชมความรู้แบบวิทยาศาสตร์ การแต่งกายก็แตกต่างจากชาวพื้นเมืองคนอื่นในสมัยนั้น
เขาแต่งกายแบบชาวยุโรป เขาพยายามลบภาพลักษณ์ความเป็นชวาออกไป เพราะเป็นภาพลักษณ์ของความล้าหลัง
ความไม่มีอารยะธรรม
แต่ทัศนคติของเขาจะเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้รู้จักกับครอบครัวของ ไญ อนโตโซโระห์</span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> ไญ อนโตโซโระห์
เป็นภรรยาลับๆของนักธุรกิจชาวดัตช์ ชื่อ เฮอร์มาน เมลเลมา
มิงเกหลงรักแอนเนลีส์สาวลูกครึ่ง ลูกของไญ อนโตโซโระห์ เขาเจออุปสรรคมากมายในเรื่องของความรัก
ทั้งการถูกปล่อยข่าวเสียหาย ถูกนินทาว่าร้ายในโรงเรียน
โดนมองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม</span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> เรื่องยิ่งแย่ลงเมื่อมิสเตอร์เมลเลมาถูกฆาตรกรรมอย่างลึกลับ
ครอบครัวของไญและมิงเกจำเป็นต้องขึ้นศาลของชาวผิวขาวหรือชาวดัตช์
ที่นี่เองเขาได้รับรู้ถึงความกดขี่ ความยโสของชาวตะวันตกที่มีเหนือชาวพื้นเมือง</span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> คำตัดสินที่ไม่ยุติธรรมต่อชาวพื้นเมือง
โดยเฉพาะสำหรับไญ อนโตโซโระห์ บอกว่าเธอไม่เพียงจะถูกยึดทรัพย์สินจากธุรกิจที่เธอเป็นผู้ดูแลมาตลอด
แต่เธอยังถูกยึดสิทธิ์ที่จะเลี้ยงดูลูกสาวคนเดียวของตัวเอง เนื่องจากแอนเนลีส์ผู้ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะจะต้องอยู่ในความดูแลของมอริตซ์ลูกชายชาวดัตช์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของ
มิสเตอร์เมลเลมา โดยแอนเนลีส์ต้องเดินทางไปฮอลแลนด์เพียงลำพัง
เพราะศาลชาวดัตช์ไม่ยอมให้ผู้ที่มีเชื้อสายดัตช์อยู่ในความดูแลของชาวพื้นเมือง
แม้แอนเนลีส์จะมีสายเลือดของชาวพื้นเมืองครึ่งหนึ่งก็ตาม</span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> เรื่องแผ่นดินของชีวิตจึงจบด้วยตอนที่ว่า
แอนเนลีส์ต้องจากบ้านไป จากไญผู้เป็นแม่ และจากมิงเก สามีของเธอ
โดยที่มิงเกไม่สามารถทำอะไรได้เลย และจากความพยายามในการต่อสู้กับศาลชาวดัตช์
จนคนรักถูกพรากจากไป ทำให้มิงเกตระหนักถึงความอยุติธรรม การกดขี่
และความชั่วร้ายของระบอบอาณานิคมตะวันตก</span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<br /></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<br /></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<br /></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<br /></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<br /></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<br /></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> </span><b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 20.0pt;">ประวัติศาสตร์อินโดนีเซียผ่านแผ่นดินชีวิต
</span></b><b><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 20.0pt;"><o:p></o:p></span></b></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 20.0pt;"> </span></b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">วรรณกรรมเรื่องแผ่นดินของชีวิตได้สะท้อนภาพของประวัติศาสตร์สังคมอินโดนีเซียในช่วงปลายศตวรรษที่
</span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">19 <span lang="TH">ได้อย่างชัดเจน เพียงแค่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบของตำราประวัติศาสตร์เท่านั้นเอง</span><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> สภาพสังคมของอินโดนีเซียในขณะนั้น
เมื่อย้อนไปดูภาพรวมในช่วงต้นศตวรรษที่ </span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">19 <span lang="TH">จะเห็นได้ว่า
ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสงบสุข
เกาะชวามีความเจริญรุ่งเรืองมาก เนื่องจาการพัฒนาด้านเกษตรกรรม
และมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นของประชากรเนื่องมาจากการที่บ้านเมืองมีความสงบสุขและเพื่อตอบสนองความต้องการในด้านแรงงาน
นอกจากนี้ดัตช์เริ่มนำระบบการบริหารและนโยบายต่างๆซึ่งเป็นเป้าหมายในการสร้างอาณานิคมมาใช้ในพื้นที่แห่งนี้โดยนโยบายต่างๆเหล่านี้ถือเป็นนโยบายใหม่และไม่เคยใช้มาก่อน
จึงทำให้การเปลี่ยนแปลงในช่วงคริสต์ศตวรรษนี้ก่อให้เกิดความยุ่งยากและไม่เหมาะสมกับสภาพความเป็นอยู่จริง
ในช่วงต้น</span><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> ศตวรรษนี้เราจะเห็นได้ว่าอิทธิพลในด้านสังคม
วัฒนธรรมและเศรษฐกิจของชาวดัตช์ก็เริ่มขยายตัวและครอบงำสังคมแบบเดิมของชาวชวามากขึ้นเรื่อยๆ
มาตรการต่างๆของดัตช์สร้างความไม่พอใจให้ชาวชวาบางกลุ่มจนนำไปสู่สงครามชวาในช่วงปี
</span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">1825 –
1830 <span lang="TH">แต่สงครามก็จบลงที่ฝ่ายดัตช์สามารถควบคุมชวาได้อีกครั้ง
ภายหลังจากที่ดัตช์ปราบกบฏในสงครามชวาได้เรียบร้อยแล้วถือว่าดัตช์ได้ใช้ระบอบการปกครองแบบอาณานิคมอย่างเต็มรูปแบบกับชวาในการควบคุมเรื่องต่างๆ</span><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> โดยในปี </span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">1830 <span lang="TH">ก็มีการนำระบบบังคับการเพาะปลูกมาใช้
เพื่อบังคับการผลิตน้ำตาลเพื่อทำกำไรสู่ตลาดโลกของดัตช์
และในการขูดรีดทรัพยากรจากอาณานิคมนี้
ดัตช์ได้มีการปลูกฝังทัศนคติค่านิยมที่จะทำให้ชาวชวาจะต้องอยู่ใต้ความปกครองของดัตช์
ต้องให้ความเคารพชาวดัตช์ และมองดัตช์ว่าเป็นผู้สูงส่ง อยู่เหนือกว่าชาวพื้นเมือง
โดยชาวพื้นเมืองไม่มีสิทธิ์เรียกร้องหรือโต้แย้งใดๆได้ การบังคับการเพาะปลูกนี้
ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมหมู่บ้าน เริ่มเกิดความไม่เท่าเทียมกัน
มีคนรวยกับคนจนเกิดขึ้น จากผลการขูดรีดนี้ก็ทำให้ดัตช์มีกำไรและรายได้เพิ่มมากจนกลายเป็นประเทศหนึ่งที่ร่ำรวยที่สุดในยุโรปในตอนนั้น
แต่สร้างผลกระทบอย่างมากในสังคมชวาจนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นในเนเธอร์แลนด์จากกลุ่มที่มีแนวคิดเสรีนิยม</span><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> กลุ่มแนวคิดเสรีนิยมนี้ต้องการให้ดัตช์เปลี่ยนนโยบายในการปกครองใหม่โดยให้มีความเสรีมากขึ้น
ทำให้ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ </span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">19 <span lang="TH">ดัตช์หันมาใช้นโยบายเสรีนิยมและผลจากการใช้นโยบายเสรีนิยมนั้นก็ทำให้เศรษฐกิจในชวาตกอยู่ในมือของนายทุนชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่
และเมื่อเราศึกษาลึกเข้าไปในช่วงปลายศตวรรษที่ </span>19 <span lang="TH">ของเมืองท่าสุราบายา
ซึ่งเป็นสถานที่หลักในวรรณกรรมเรื่องนี้
จะเห็นได้ว่ามีการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมที่มากับนโยบายเสรีนิยม</span><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> โดยเมืองท่าสุราบายาเป็นเมืองท่าที่ขยายตัวรอบๆท่าเรือใหญ่
ทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่แห่งนี้ย่อมต้องมองเห็นและรับรู้ถึงการหลั่งไหลเข้ามาของวัฒนธรรมต่างๆที่เข้ามาพร้อมกับการขยายตัวของอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีแบบทุนนิยม
อันเป็นผลมาจากนโยบายเสรีนิยมได้อย่างถนัดชัดเจน
ทั้งเรือบรรทุกสินค้าที่นำเอาสินค้าต่างๆมากมาย ทั้งเครื่องจักรและสินค้าจากยุโรป
ทำให้มีการขยายตัวของเศรษฐกิจการค้า โดยเฉพาะมีการขนวัวนมสำหรับอุตสาหกรรมนมของชวาเข้ามาที่เมืองท่าแห่งนี้</span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> นอกจากนี้ยังมีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติหลั่งไหลเข้ามาโดยเฉพาะชาวตะวันตก
ทั้งเจ้าหน้าที่ของดัตช์ที่ถูกส่งตัวมา พ่อค้า นักเผชิญโชค
คนเหล่านี้เข้ามาที่หมู่เกาะชวาเพื่อแสวงหา กอบโกย ตักตวงเอาผลประโยชน์จากหมู่เกาะแห่งนี้</span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> เมื่อผู้คนจากต่างเชื้อชาติเข้ามาอยู่จึงเกิดการแลกเปลี่ยนความรู้
มีการหลั่งไหลของความร็เข้ามาอย่างไม่ขาดสายทั้งในด้านการเมือง การปกครอง ศาสนา
ปรัชญา และวิสัยทัศน์ในด้านต่างๆ รวมทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบโลก
มีการเข้ามาของเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น เรื่องของการพิมพ์หนังสือ พิมพ์รูปภาพ
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความเจริญที่เข้ามาพร้อมกับการต้องตกอยู่ใต้อาณานิคมของดัตช์ทั้งนั้น
และธุรกิจความมั่งคั่ง
รวมทั้งผลประโยชน์ส่วนใหญ่ก็เป็นของชาวต่างชาติมากกว่าที่จะเป็นของชาวพื้นเมือง
ทำให้มีการวิจารณ์นโยบายการปกครองของดัตช์อย่างกว้างขวางว่าเอารัดเอาเปรียบชาวพื้นเมืองมากเกินไป
รัฐบาลดัตช์จึงพยายามหาทางแก้ไขปัญหา
จนนำไปสู่นโยบายจริยธรรมในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ </span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;">20<o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> <span lang="TH">มีการดำเนินนโยบายการผสมผสานทางวัฒนธรรมซึ่งเป็นพื้นฐานความคิดของนโยบายจริยธรรม
ด้วยการนำเอาวัฒนธรรมตะวันตกสมัยใหม่สอดแทรกเข้าไปในวิถีชีวิตของกลุ่มลูกหลานปรียายีรุ่นใหม่ที่เคยยึดติดอยู่กับวัฒนธรรมอิสลามพื้นเมืองแบบชวา
มีการสนับสนุนการศึกษา แต่ก็แค่ในกลุ่มชนชั้นสูงของสังคมชวาเท่านั้น
ทำให้การศึกษากระจุกตัวอยู่แค่ในบางกลุ่ม</span><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> การดำเนินนโยบายจริยธรรมของดัตช์ตั้งอยู่บนจุดประสงค์แห่งความหวังดีแต่ผลที่ได้กลับสร้างความแปลกแยกทางวัฒนธรรมระหว่างวัฒนธรรมสมัยใหม่ของตะวันตกกับวัฒนธรรมอิสลามเกิดขึ้นในกลุ่มลูกหลานชนชั้นสูงที่ได้รับการศึกษาแบบใหม่จากโรงเรียนรัฐบาล
และโรงเรียนเอกชนที่ชื่นชมวัฒนธรรมสมัยใหม่</span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"><o:p></o:p></span></div>
<div class="MsoNoSpacing">
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"> มีการกำหนดใช้ภาษาดัตช์เป็นภาษากลางเพื่อเป็นมาตรฐานในการศึกษา
ทำให้เป็นการแบ่งแยกชนชั้น
ซึ่งภาษาในสมัยนั้นเป็นเครื่องบ่งบอกถึงชนชั้นวรรณะทางสังคมอย่างชัดเจน
ในสมัยนั้นชาวพื้นเมืองถูกห้ามไม่ให้ใช้ภาษาดัตช์
ซึ่งภาษาดัตช์เป็นภาษาสำหรับชนชั้นปกครอง และชนชั้นสูงสุด ภาษาชวาเป็นภาษาของคนพื้นเมืองในเกาะชวา
ภาษามลายูเป็นภาษาระหว่างเชื้อชาติต่างๆ เป็นภาษากลาง
เป็นภาษาของลูกครึ่งยุโรปเอเชีย
นอกจากภาษาที่เป็นตัวกำหนดชนชั้นวรรณะในสังคมแล้วเรื่องของเชื้อชาติก็เป็นประเด็นสำคัญ
มีการแบ่งแยกเชื้อชาติอย่างชัดเจน เช่นชาวพื้นเมือง ชาวเลือดผสม ชาวอินโด
และชาวยุโรปแท้ การแบ่งแยกนี้มีสถานภาพทางกฎหมายรองรับ</span><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt;"><o:p></o:p></span></div>
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%; mso-ansi-language: EN-US; mso-bidi-language: TH; mso-fareast-font-family: Calibri; mso-fareast-language: EN-US;"> มาตรการต่างๆของรัฐบาลดัตช์ทำให้เกิดความห่างเหินทางวัฒนธรรมการศึกษาขึ้น
ทำให้ความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดของวิถีชีวิตแบบเดิมคลายตัวลง
ส่งผลให้เกิดการวมตัวกันของชวาพื้นเมืองโดยมีศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในการเคลื่อนไหว
ต่อต้านเหล่าผู้ปกครองต่างชาติ</span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/16393642482858948985noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7402167417114215218.post-63384389107725554922016-07-20T00:50:00.001-07:002016-07-20T01:08:05.561-07:00สงสัยจัง??แท้จริงแล้วความสุขคืออะไรกันแน่นะ..<br />
<br />
มองดูใกล้ๆ มองไม่ไกล แค่เราไม่เจ็บป่วยก็มีความสุขแล้วนะ<br />
<br />
แค่เราได้ทานอาหารอร่อยๆก็มีความสุขแล้ว<br />
<br />
แค่ได้คุยกับใครสักคน ได้แลกเปลี่ยนอะไรบางอย่างซึ่งกันและกันก็มีความสุข<br />
<br />
แค่ได้ทำอะไรที่เราชอบก็มีความสุข<br />
<br />
แค่ได้คิดถึงเรื่องราวในอดีตที่เคยทำให้มีความสุขก็มีความสุข<br />
<br />
เรานี่ช่างมีความสุขได้ง่ายจังเลยเนอะ<br />
<br />
แล้วทำไมต้องไปคิดอะไรใหญ่โตด้วยล่ะ ในเมื่อเรื่องเล็กๆแค่นี้ก็ทำให้เรามีความสุขได้เหมือนกัน<br />
<br />
บางคนก็อาจจะกำลังมีความสุขอยู่แต่ไม่รู้ตัวก็ได้นะ<br />
<br />
เวลาเรารู้ตัวว่าเรากำลังมีความสุขอยู่มันยิ่งทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้นได้มั้ยนะ<br />
<br />
ความสุขของแต่ละคนก็คงไม่เท่ากันสินะ<br />
<br />
ยังไงก็มีความสุขเถอะนะ<br />
<br />
ทุกคนควรมีความสุขตามอัตภาพของตัวเอง<br />
<br />
<br />
ตัวฉัน... ในขณะที่นึกสงสัยกับคำถามมากมายในชีวิตAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/16393642482858948985noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7402167417114215218.post-79428883275389769022016-07-16T20:01:00.001-07:002016-07-16T20:01:07.777-07:00ความฝัน : เป้าหมายเราเชื่อว่าทุกคนมีฝันนะ มีสิ่งที่อยากทำ เราค้นพบว่าการมีจุดมุ่งหมาย เป้าหมายอะไรสักอย่างมันดีนะ มันทำให้เรารู้ว่าเราหายใจอยู่ทุกวันนี้เพื่ออะไร ไม่ได้ใช้ชีวิตเลื่อนลอยไปวันๆ <div>
<br /></div>
<div>
ใครฝันอะไรไว้ก็ลงมือทำเถอะ เล็กน้อยก็ทำไป เอาที่สบายใจ ใช้ชีวิตให้มีความสุข แต่อย่าเอ้อระเหยจนเฉื่อยชาล่ะ ความฝันมันจางลงได้นะถ้าเราปล่อยมันทิ้งไว้นานๆน่ะ </div>
<div>
<br /></div>
<div>
ตั้งเป้าหมาย แล้วเดินไปหามัน แล้วอย่าลืมว่าระหว่างทางก็สำคัญไม่แพ้ปลายทางเหมือนกัน :)</div>
<div>
<br /></div>
<div>
<br /></div>
<div>
<br /></div>
<div>
<br /></div>
<div>
ตัวฉัน..... ในวันที่ทุกคนกำลังอยู่ในช่วงวันหยุดยาวแต่เราต้องทำงาน</div>
<div>
<br /></div>
Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/16393642482858948985noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7402167417114215218.post-7747626679024618612016-07-13T05:46:00.004-07:002016-07-13T05:46:31.783-07:00ซอมบี้สีเทา<br />
<br />
สวัสดีวันพุธตอนบ่ายคล้อยจนเกือบจะเย็น ถึงแม้จะเป็นบ่ายแก่ๆ แต่พระอาทิตย์ก็ลับแสงไปนานแล้ว ถูกบดบังด้วยก้อนเมฆสีดำทะมึนก้อนใหญ่ ให้ความรู้สึกสีเทา มึนๆ อึนๆ บอกไม่ถูก ความเหงามักจะเข้ามาเมื่อแสงอาทิตย์หายไปนี่แหละ ก็แปลกดีเหมือนกันนะ<br />
<br />
บรรยากาศอึมครึมขนาดนี้ เรื่องที่จะพูดถึงก็อึมครึมเช่นกัน ถ้าเปรียบเทียบชีวิตเราตอนนี้เป็นสีสัน จากที่เคยเป็นสีที่สดใส ตอนนี้กำลังถูกสีเทายึดชิงพื้นที่เข้ามามากขึ้นทุกที การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ ที่ทุกคนต่างเร่งรีบ สิ่งแวดล้อมที่มีแต่มลพิษ การจราจรที่ติดขัดอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้คนในเมืองใหญ่แห่งนี้ใกล้เคียงซอมบี้เข้าไปทุกที คงเป็นเพราะความฝันที่เคยสดใสดูเลือนรางลงไปทุกทีล่ะมั้ง<br />
<br />
การทำงานเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง หรือบางคนอาจจะมีครอบครัวที่ต้องคอยดูแลอยู่ข้างหลังเป็นสิ่งสำคัญที่เลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้หลายคนจะไม่ชอบใจในงานที่ตัวเองทำอยู่ แต่ก็ต้องชั่งใจให้ดี ว่าสิ่งไหนจำเป็น สิ่งไหนสำคัญกับชีวิตเราจริงๆ แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ถ้าสิ่งที่ทำอยู่นั้นไม่ไหวจริงๆ ทำให้เราเป็นทุกข์มากจริงๆ ก็ควรเลือกทำให้ชีวิตมีความสุขน่าจะดีกว่า ชีวิตคนเรานั้นสั้น สั้นเกินกว่าที่จะมานั่งทนทุกข์ เราต้องจำไว้เสมอว่าเราเกิดมาเพื่อมีความสุข อะไรที่จะทำให้เรามีความสุข เราก็ไม่ควรลังเลที่จะทำมัน แต่ถ้าจะให้เป็นสุขที่แท้จริง สุขนั้นจะต้องไม่เบียดเบียนสุขของคนอื่นด้วย<br />
<br />
สิ่งที่ทำให้เราใกล้เคียงซอมบี้มากเข้าไปทุกที อาจจะเริ่มมาจากความเบื่อหน่าย โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมรอบตัว ทัศนียภาพที่ไม่สดใส มลพิษจากควันรถยนต์ มลพิษทางเสียง มลพิษทางน้ำ กลิ่นเหม็นเน่าฉุนจมูกที่ลอยคละคลุ้งขึ้นมาจากท่อระบายน้ำที่พบได้ทั่วไปบนทางเดินเท้าในกรุงเทพมหานคร แต่สิ่งแวดล้อมที่ใกล้ตัวมากที่สุดและมีอิทธิพลต่อชีวิตซอมบี้อย่างเรามากที่สุดก็คงจะเป็นบรรยากาศในที่ทำงาน ใครมีเพื่อนร่วมงานที่น่ารัก เจ้านายที่เก่งและใส่ใจลูกน้องก็นับเป็นความโชคดีอันหาที่สุดไม่ได้ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้โชคดีขนาดนั้น ก็อาจจะต้องมีความอดทนอย่างมาก หาเครื่องมือปกป้อง ป้องกันตัวเองที่เหมาะสม และเดินหน้าต่อสู้กับชีวิตต่อไป<br />
<br />
แน่นอนที่เราไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้โชคดี แต่ถึงแม้ชีวิตการทำงานจะไม่ได้เป็นอย่างที่ฝันไว้ ปมดราม่าก็มีมากมายซับซ้อนยิ่งกว่าซีรี่เกาหลี อันการนินทากาเลเหมือนเทน้ำก็คงจะมีอยู่ในแทบจะทุกสังคมการทำงาน ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงที่จะไม่เจอได้ยาก ยอมรับว่ามีช่วงที่เบื่อมากๆ รู้สึกไม่โอเค รู้สึกไม่ชอบสังคมแบบนี้ รู้สึกไม่อยากลุกจากเตียง ไม่มีpassion ไม่มีแรงผลักดัน ไม่อยากตื่นมาทำงาน พอมาถึงที่ทำงานก็ทำแบบเบื่อๆ ทำไปตามหน้าที่ บางทีก็ตึงๆกับเพื่อนร่วมงาน พีคมากๆก็พูดไม่ดีใส่กัน ความรู้สึกดีๆที่เคยมีก็เริ่มเลือนหายไปหมด แต่พอทุกอย่างถึงจุดพีคสุดๆ มันก็จะเริ่มลดลงมาเองเรื่อยๆ จากความไม่ชอบ ความทนไม่ได้ กลายเป็นเฉยๆ เริ่มชาๆ คล้ายซอมบี้เข้าไปทุกที<br />
<br />
ที่ทุกอย่างคลี่คลายลงไป อาจจะเป็นเพราะเราได้ค้นพบอะไรหลายๆอย่างในการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมแบบนี้ เรารู้สึกว่าสิ่งที่เราไม่ชอบที่คนอื่นเป็นหรือที่เขาทำ เรากลับเริ่มจะเป็นคล้ายเขา อย่างเช่นการนินทา การพูดลับหลัง เมื่อก่อนเราไม่ค่อยนินทาใคร เพื่อนเม้าท์กันเราก็เฉยๆ แต่พอตอนนี้ พอเรามีเรื่องที่ไม่ชอบหรือคนที่ไม่ชอบเราก็เริ่มทำแบบที่เขาทำกับเราบ้าง พอรู้ตัวอีกทีก็เริ่มกลายเป็นคนขี้เม้าท์ไปแล้ว ซึ่งเราก็ไม่ชอบตัวเองในแบบนี้เลย พอคิดได้แบบนั้นก็ตัดสินใจ ลด ละ เลิก ดีกว่า ทำยากเหมือนกัน แต่ถ้าให้เลือก เลือกเป็นตัวเองแบบเดิมดีกว่า ชอบแบบนั้น มีความสุขกว่าตอนนี้เยอะ<br />
<br />
จริงๆการที่เราเริ่มเม้าท์ๆมอยๆ มันก็มาจากการที่เราไม่ชอบนิสัยคนอื่น พอสะสมมากๆเข้าก็รู้สึกอึดอัด ยิ่งมีเพื่อนให้ระบาย พอพูดออกมาแล้วก็สบายใจขึ้น ที่นี้ก็เลยกลายเป็นการพูดจนเริ่มจะติด จริงๆทุกคนก็มีข้อเสียทั้งนั้นแหละ ไม่มีใครที่ดีทั้งหมด หรือเลวทั้งหมด มาคิดๆดูคนที่เราไม่ชอบ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนไม่ดีซะทั้งหมด ส่วนที่ดีของเขาก็คงมี แต่เรามักจะมองข้ามไป มองแต่เรื่องที่เราไม่ชอบ จริงๆเขาอาจจะเป็นลูกที่ดี เป็นพี่เป็นน้องที่ดีของใครหลายคนแค่ไม่ใช่กับเราเท่านั้นเอง<br />
<br />
ในความเป็นจริงคือเราไม่สามารถไปเปลี่ยนให้ใครมาเป็นแบบที่เราชอบได้ทั้งหมด ทุกคนโตมาไม่เหมือนกัน การเลี้ยงดู การใช้ชีวิต สิ่งแวดล้อม ประสบการณ์ มุมมองการใช้ชีวิตยิ่งไม่มีทางเหมือนกัน จะให้คนอื่นมาคิดเหมือนที่เราคิดก็คงไม่ได้ หลายครั้งเคยคิดว่า "ทำไมเขาทำแบบนั้นนะ" "ทำไมเขาคิดแบบนั้นล่ะ" "ทำแบบนั้นมันไม่ถูกนี่นา" แต่ความจริงคือไม่มีอะไรที่ผิดหรือถูกทั้งหมด ผิดถูกขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราไปตัดสินคนอื่นซึ่งจริงๆเราก็ถือที่วัดกันคนละอันคนละแบบ อย่างเช่นเอาไม้บรรทัดไปชั่งน้ำหนักสิ่งของก็คงไม่ใช่ ดังนั้นเราจึงตัดสินบางสิ่งว่าถูกหรือผิดจริงๆโดยอาศัยแค่มุมมองของเราเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แถมเราก็ไม่ได้ดีเลิศเลอเพอร์เฟคพอที่จะไปติดสินคนอื่นด้วยซ้ำ<br />
<br />
มนุษย์นั้นมีความแตกต่างและหลากหลาย ทางที่เราทำได้ดีที่สุดก็คือพยายามยอมรับความแตกต่างนั้น แต่ถ้าทำยังไงก็ยอมรับไม่ได้จริงๆ ปรับตัวที่จะอยู่ร่วมกันไม่ได้จริงๆ ก็แค่ต่างคนต่างอยู่ไม่ก้าวก่ายกันก็คงจะพอ ไม่จำเป็นที่จะต้องเกลียด หรือทำสิ่งแย่ๆใส่กัน เพราะจริงๆแล้วอาจจะไม่มีใครที่ผิด ไม่มีเขาผิด เราผิด ก็แค่ทัศนคติไม่ตรงกัน แนวทางการใช้ชีวิตไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง<br />
<br />
การเปลี่ยนจากซอมบี้ให้กลายมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง อาจทำได้ด้วยการตั้งเป้าหมาย หรือหาสิ่งที่ชอบหรืองานอดิเรกทำ เพราะถ้าเราได้ทำสิ่งที่ชอบ ถึงแม้จะทำงานจนแทบไม่มีเวลาเหลือแต่เราก็จะหาเวลาให้กับความสุขของเราได้อย่างแน่นอน อย่างเรารู้ตัวว่าชอบอ่านหนังสือ ก็พยายามหาหนังสือดีๆมาอ่าน หนังสือที่ให้กำลังใจ หนังสือที่เราชอบ หรืออาจจะเป็นนิยายชวนฝันอ่านให้สบายใจ อ่านจนเพ้อกันไป นอกจากนี้เราก็ชอบปลูกต้นไม้ ชอบดอกไม้ ก็นั่งวางแผน นั่งหาวิธีปลูกต้นไม้ปลูกผักกินเองตามพันทิป หรือบางทีก็เรียนวาดรูป เรียนจัดดอกไม้จากยูทูป<br />
<br />
พอได้เริ่มหาสิ่งที่ชอบทำก็รู้สึกว่าชีวิตมีความสุขขึ้นเยอะ หรือว่าจริงๆแล้วที่เรามีเวลาไปคิดลบๆคิดแย่ๆนี่อาจจะเป็นเพราะเราว่างมากจนเกินไปสินะ พอได้หาอะไรทำชีวิตก็ดูจะมีสีสันขึ้นมา ถึงสิ่งที่เราเริ่มทำจะเป็นสิ่งเล็กๆแต่ก็เป็นสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข (ปริมาณไม่สำคัญเท่าคุณภาพ-ไม่เกี่ยว นึกขึ้นได้ ><)<br />
<br />
การเรียนรู้ที่จะอยู่และหาหนทางที่จะมีความสุข ดีกว่าจมอยู่กับทุกข์ จมอยู่กับความคิดไม่ดีความคิดแย่ๆเนอะ จริงๆเราก็บอกตัวเองเสมอว่าเราต้องอยู่แบบมีความสุข เราไม่ควรทนหรือรองรับอะไรที่แย่ๆ เราสมควรได้รับแต่สิ่งดีๆ เพราะเราทำแต่สิ่งดีๆเสมอ (เป็นตรรกะโง่ๆแต่เป็นตรรกะที่สบายใจ ก็โอเค๊) แต่บางครั้งคนเราก็ต้องมีหลงลืมไปบ้าง เผลอทำตัวที่จะได้แต่สิ่งแย่ๆกลับมา ไม่เป็นไรหรอกยังไงทุกอย่างก็เป็นบทเรียนในชีวิตทั้งนั้น ถึงจะเสียอะไรไปบ้างแต่ก็ได้อะไรกลับมาเสมอ และในทางกลับกันก็ไม่มีอะไรที่ได้มาโดยที่ไม่ต้องเสียอะไรบางอย่างไป<br />
<br />
แต่ถึงยังไงซอมบี้ตัวนี้ก็ยังมีความเป็นซอมบี้อยู่ แต่ก็เริ่มจะกลับมาเป็นมนุษย์และจะกลายเป็นมนุษย์คนดีคนเดิมคนเดียวในไม่ช้าอย่างแน่นอน แต่จริงๆบางคนก็ชอบอยู่แบบซอมบี้นะ อันนี้ก็แล้วแต่ ชีวิตเราเราต้องเลือกเอง เรามีสิทธิ์เลือก <3<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
ตัวฉัน.. ในวันที่เริ่มเปลี่ยนจากซอมบี้กลายเป็นคน<br />
<br />
<br />
<br />
<br />Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/16393642482858948985noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7402167417114215218.post-11625722122269872012016-06-06T00:08:00.000-07:002016-06-06T10:00:49.506-07:00เรื่องเศร้าๆ<br />
เคยเป็นมั้ย อ่านอะไรเศร้าๆก็น้ำตาไหล ดูละคร ดูหนังพอถึงฉากซึ้งฉากดราม่าทีไรร้องไห้ตลอด ทุกคนก็คงเคยเป็นบ้าง แต่ไม่รู้ทำไมเราเป็นตลอด คงจะเป็นคนที่ sensitive มากเกินไป นี่เป็นโรครึป่าว หรือจริงๆแล้วเราเป็นเด็กมีปมใช่มั้ย ไม่รู้ต้องทำไงให้อาการพวกนี้มันหายไป บางครั้งก็น่าอายนะ เดินๆอยู่เพลินๆดันเผลอไปคิดเรื่องเศร้าน้ำตาก็พากันจะไหลออกมา บางครั้งเดินอยู่ตรงสยามงี้ ยืนอยู่ป้ายรถเมล์ที่คนเยอะๆงี้ มากกว่าอายคืออายมากกกก<br />
<br />
เป็นคนที่ไม่ชอบเรื่องเศร้าเลยจริงๆ เวลาเลือกดูละคร ดูหนังจึงมักจะเลือกเรื่องตลกๆ เน้นแนว comedy ไม่เน้น drama อยู่เสมอ ไม่รู้สิ รู้สึกว่าเราควรดูเพื่อคลายเครียด แต่ก็เข้าใจเพื่อนหลายๆคนนะที่ชอบดูแนว drama น้ำตาไหลพราก เพราะสิ่งที่แต่ละคนต้องการจากการดูหนังก็คงจะแตกต่างกันจริงๆนั่นล่ะ<br />
<br />
แล้วถามว่าเวลาเราเจอเรื่องเศร้าเจอเรื่องผิดหวังเราทำยังไง sensitive ขนาดนี้ไม่ร้องไห้จนน้ำตาท่วมบ้าน กินยานอนหลับแบบไม่ฟื้นไปเลยมั้ย ตอบตรงนี้เลยว่าไม่ เราคิดว่าการจบชีวิตตัวเองไม่ใช่คำตอบของปัญหาอะไรก็แล้วแต่ที่เกิดขึ้นเพราะปัญหานั้นยังไม่หายไป ถึงยังไงก็ต้องมีคนมารับปัญหานั้นต่อไปจากเรา อาจจะเป็นลูก เป็นพ่อแม่เรา เป็นคนในครอบครัว หรืออาจเป็นเพื่อน เป็นผู้ใหญ่ที่เราเคารพรัก มันคงไม่น่ารักเลยที่เราจะเอาความทุกข์โยนไปให้คนที่เรารักหรือรักเราแบบนี้ถึงแม้เราอาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม นี่ล่ะเขาถึงเรียกว่าการคิดสั้น มันคงเป็นแค่ชั่ววูบเดียวจริงๆ ถ้ามีเพื่อนหรือคนในครอบครัวกำลังเจอเรื่องทุกข์ใจทางที่เราทำได้ก็คงจะต้องให้ความรักเขามากๆ อย่าให้เขาต้องอยู่คนเดียวเลย เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้<br />
<br />
แน่นอนว่าเราจะต้องน้ำตาแตกเหมือนเขื่อนพังอยู่แล้วเวลาที่มีปัญหาหรือเจอเรื่องเศร้าในชีวิต มันเป็นอารมณ์ที่เราคงหลีกเลี่ยงไม่ได้แต่สิ่งที่ทำได้ก็แค่ปล่อยไปตามธรรมชาติ เสียใจก็ร้องไห้ไป ร้องไห้ให้พอ เพราะยังไงก็คงไม่มีใครร้องไห้ตลอดเวลาไปตลอดชีวิตหรอก พอถึงจุดจุดหนึ่งเราก็หยุด พอหยุดร้องก็เอาเวลามาแก้ไขปัญหาต่อไป โชคดีที่แม่เรามักจะสอนเราอยู่เสมอว่าทุกปัญหามีทางออกเสมอ บางปัญหาเราไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ปล่อยให้เวลาเป็นตัวช่วยที่ทำให้ปัญหานั้นเบาบางลง พูดแบบนี้มันก็ดูง่ายเนอะ ดูเหมือนเป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้เลย แต่เชื่อเราเถอะ เราผ่านมาหลายครั้งละ ไม่ว่าปัญหาอะไรมันก็จะต้องมีทางออกเสมอ<br />
<br />
ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากจะเจอปัญหาเจอความทุกข์ใจหรอกแต่ชีวิตเราตั้งอยู่บนความไม่แน่นอนไง ดังนั้นมันจึงเลือกไม่ได้ แล้วทีนี้จะทำไงล่ะ ฟังดูไม่โอเคเลยใช่มั้ย เราจะบอกแบบนี้นะ คือเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องธรรมดา ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป สังเกตดูเรื่องที่เราเครียดๆมันก็จะมีไม่กี่เรื่อง อย่างเรื่องที่ยังมาไม่ถึง หรือเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ยกตัวอย่างเช่นตอนที่เราไป work and holiday ที่ melbourne ช่วงแรกๆ เป็นอะไรที่แบบโดดเดี่ยว หวาดกลัว หลงทาง ไม่รู้จะไปทางไหนมากๆ ช่วงนั้นน้ำตาจะไหลตลอดเวลา คิดเลยว่าเรามาทำอะไรอยู่ที่นี่นะ<br />
<br />
อาทิตย์แรกๆเป็นอะไรที่ panic มากๆ ยังจำได้ว่าวันแรกที่ถึงนี่ตื่นเต้นมาก จริงๆก็ตื่นเต้นตั้งแต่อยู่ไทยแล้วล่ะ แต่ออกแนวดีใจ เราจะได้ออกไปแตะขอบฟ้าสักที ได้เจอโลกกว้าง มีเพื่อนใหม่ ชีวิตดี สดใส บลาๆๆ แต่พอผ่านไปสักอาทิตย์สองอาทิตย์ภาพตัดมาที่โลกแห่งความจริงเรานี่นั่งโดดเดี่ยวหมดเรี่ยวแรงอยู่ในสวนสาธารณะกันเลยทีเดียว อากาศก็หนาว แต่ไม่รู้จะไปไหนที่จะไปก็ไม่มี เงินที่แลกติดตัวไปก็ใกล้จะหมด เพื่อนก็ไม่มีอีก มันเศร้ามากเลยนะตอนนั้น ทั้งเศร้าทั้งเหงาคิดถึงบ้านอีกตะหาก เลยไปนั่งเป็นนางเอกMV แถวสวนสาธาณะอยู่บ่อยครั้งเลยเหมือนกัน<br />
<br />
คือเราไป melbourn คนเดียว ญาติมีก็จริงแต่อยู่นอกเมืองไกลกันมาก บ้านเราก็ต้องหาเอง งานก็ต้องหาเอง เบอร์โทรศัพท์ก็ต้องไปเปิด บัญชีธนาคารก็ต้องมี ตอนนั้นตัวคนเดียว ต้องทำอะไรคนเดียว ความรู้สึกคือกลัวไปหมด มันไม่มีใครหรืออะไรที่จะทำให้เราสบายใจหรือพึ่งพิงได้เลย แล้วเป็นการไปต่างประเทศครั้งแรก ทั้งๆที่ปกติตอนอยู่ไทยก็แทบไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว อยู่มหาลัยก็กลับบ้านทุกอาทิตย์ เหมือนอยู่บ้านมากกว่าอยู่มหาลัยอีก คือเป็นคนติดบ้านมาก แล้วนี่ต้องไปไกลขนาดนั้น ไปในที่ที่ไม่รู้จักใครเลย ดีหน่อยมีช่วงแรกที่พี่รหัสพาไปเดินดูนู่นนั่นนี่ แต่แค่พักเดียวพี่ก็กลับไทยไป<br />
<br />
ไม่รู้สำหรับคนอื่นมันจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ขนาดไหน แต่สำหรับเราตอนนั้นเป็นเหมือนเด็กที่เพิ่งเผชิญโลกกว้างเป็นครั้งแรก ปัญหาเรื่องเงิน เรื่องงาน เรื่องบ้านเป็นอะไรที่ใหญ่มากๆสำหรับเรา ตอนนั้นคือเครียดมาก ยังดีหน่อยที่ทางเลือกอันดับแรกของเราคือการเข้าวัด มันก็ตลกดีนะ ที่คนเราตอนชีวิต Happy มีความสุขดีไม่เคยนึกถึงวัด แต่พอมีเรื่องทุกข์ใจนี่วัดกลายเป็น choice อันดับแรกๆที่เลือกเลย<br />
<br />
แล้วการเข้าวัดก็ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง โชคดีหน่อยที่วันนั้นมีการเทศน์ เราจึงได้ข้อคิดมาหลายอย่าง ทั้งๆที่ทุกๆอย่างก็เป็นเรื่องธรรมดา เรื่องที่เราก็รู้ๆกันอยู่แล้ว แต่พอปัญหามาบังตากลับมองไม่เห็นคิดอะไรไม่ออกไปซะอย่างนั้น สิ่งที่เราได้ค้นพบ ทางออกของปัญหาที่เรากำลังเจอก็คือการอยู่กับปัจจุบันไม่ต้องกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ไม่ต้องมัวแต่คิดถึงอดีตที่ผ่านไปแล้วเพราะเราคงแก้ไขอะไรไม่ได้ ทางที่ดีคือมีสติให้มากที่สุด รู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ แล้วทำปัจจุบันให้ดีที่สุด<br />
<br />
มันก็จริงนะ เราพบว่าตัวเองมักจะกังวลกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึงอยู่เสมอ กลัวว่ามันจะแย่ อย่างตอนแรกทำงานในร้านอาหารซึ่งทั้งครัวเป็นต่างชาติแทบทั้งหมด ตอนนั้นภาษาก็ไม่ได้ดีมาก บรรยากาศการทำงานก็เร่งรีบ เครียดไปหมด ตอนนั้นก่อนไปทำงานร้องไห้ตลอด รู้สึกไม่อยากไป แต่ไม่ไปก็ไม่ได้ เงินก็ต้องหา งานใหม่ก็ยังหาไม่ได้ ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่ากิน ยังไงก็ต้องอดทนแล้วทำไป ตอนนั้นทุกข์ใจมากๆจริง<br />
<br />
แต่พอมาคิดดู เหตุการณ์ทั้งหลายมันยังไม่เกิดเลยเราก็กลัวไปก่อนแล้วร้องไห้ไปก่อนแล้ว กลัวทำงานผิดพลาดกลัวโดนหัวหน้าด่า (หัวหน้าเชฟตอนนั้นโหดมากจริงๆT^T) เรากลัวไปก่อนทั้งๆที่มันยังไม่เกิดขึ้น แล้วการที่เรากลัวไปก่อนมันกลับส่งผลเสียทำให้เราไม่มีความสุขในการทำงาน ไม่ได้เปิดใจจะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ มัวแต่กลัวอย่างเดียว แต่พอหลังจากไปวัดครั้งนั้น เราก็ลองมาปรับตัวเองดู ปรับความคิดใหม่ ทุกอย่างก็ดีขึ้นนะ อย่างน้อยเราก็ไม่ร้องไห้ก่อนไปทำงานแล้วล่ะ ถามว่างานเครียดมั้ย ก็ยังคงเครียดอยู่เหมือนเดิมแร่ะ แต่เราไม่เครียดเท่าเดิมแล้ว เรามีความสุขมากขึ้นเวลาทำงานนะ ตั้งใจทำงานที่อยู่ตรงหน้าไป ทำให้ดีที่สุด ไม่มัวแต่มานั่งกลัวว่ามันจะไม่ดี จริงๆแล้วเราเชื่อว่าถ้าเราทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ผลลัพธ์มันก็คงไม่ได้ออกมาแย่จนเกินไปหรอก จริงๆนะ ถึงมันจะออกมาแย่ก็แค่ยอมรับมัน ถ้าเราแก้ไขได้ก็แก้ไขไป ถ้าแก้ไม่ได้จริงๆก็ลองหาหนทางอื่นๆดู<br />
<br />
ที่สำคัญอีกเรื่องคือเราต้องรักตัวเอง รักครอบครัว รักคนที่รักเราให้มากๆ หรือจะรักอะไรก็แล้วแต่ รักในงานที่ทำ รักดิน รักฟ้า รักน้ำ รักอากาศ ถ้าเรามีแต่ความรักรอบๆตัวเรา ความทุกข์ก็คงจะแทรกเข้ามายากแหละ มั้งง...<br />
<br />
นี่ก็ไม่รู้กำลังพูดเรื่องอะไรอยู่นะ คุยกับตัวเองไปวันๆ คุยกับตัวเองไปเรื่อยๆเหมือนคนสติไม่ดีแล้วล่ะ แต่มันก็ดีนะ เหมือนได้ทบทวนตัวเอง ไม่ได้หวังว่าจะมีใครเข้ามาอ่านเยอะๆหรอก แต่ถ้ามีคนได้อะไรดีๆจากเราไปบ้างก็คงจะดี ไม่ได้หมายความที่เราเขียนมาทั้งหมดนี่ดีทั้งหมดนะ แต่มันก็คงจะมีสัก 1 % ที่เป็นเรื่องดีๆบ้างล่ะน่าา เอาเหอะจริงๆก็ไม่ได้อะไรมากมาย ถึงจะมีคนอ่านหรือไม่มี เราก็มีความสุขดีของเราอยู่แล้ว หวังว่าคนอื่นๆ สิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตอื่นๆบนโลกใบนี้หรือโลกใบอื่นจะมีความสุขมากๆมีทุกข์น้อยๆเนอะะ รัก รัก รัก ขอให้เต็มไปด้วยความรักที่บริสุทธิ์<br />
<br />
<br />
ตัวฉัน... ตอนที่เขียนนั้นควรทำงานอยู่<br />
<br />Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/16393642482858948985noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7402167417114215218.post-5373752362427017962016-06-05T04:59:00.002-07:002016-06-06T04:30:58.867-07:00ดอกไม้ และเธอ สวัสดี... <br />
<br />
หลังจากหายไปนานเพราะว่ายุ่งๆ ในที่สุดเราก็กลับมาว่างอีกครั้ง (คงเป็นช่วงเวลาสั้นๆ T^T) ไหนๆก็ไหนๆละ กลับเข้าสู่หนทางการเขียน (ที่คิดว่าชอบนักชอบหนาา !) ดีกว่า เป็นนักเขียนก็ต้องมีเรื่องเล่าใช่มะ งั้นขอเล่าเรื่องที่เพิ่งจะผ่านไปเมื่อวานละกัน จริงๆคือจำเรื่องก่อนหน้านั่นไม่ได้ 555 ย้อนไปแค่วันเดียวพอ..<br />
<br />
เดี๋ยวๆ จริงๆแล้วมันต้องย้อนไปนานกว่านั้นสิ เรื่องราวเริ่มต้นที่ เพื่อนในกลุ่ม บิวบิ้ว ครูสาวคนสวย จะเข้ารับปริญญาที่ มศว แต่มีแค่วันเดียวที่เพื่อนจะซ้อมที่ อโศก นอกเหนือจากนี้เพื่อนเข้าป่า เข้าดงไปองครักษ์ค่ะ เราเลยตัดสินใจว่าต้องไปร่วมยินดี วันที่เพื่อนซ้อมใน กทม นี่ล่ะ วันอื่นหนูไปไม่ไหวข่าา<br />
<br />
เอาล่ะจะเริ่มเข้าเรื่องละ เวลาไปยินดีเราก็ควรจะมีของขวัญติดไม้ติดมือไปใช่มั้ย จะซื้อตุ๊กตาก็รู้สึกว่าเพื่อนโตละ จะซื้อเครื่องสำอางค์ก็กลัวเพื่อนจะมีละ คิดว่าจะซื้อดอกไม้ให้ ก็ดูธรรมดาไป แต่จากการที่เรียนจัดดอกไม้มาโดยตลอดกับอาจารย์ยู (ยูทูป) เลยตัดสินใจว่าจะจัดดอกไม้ไปให้เพื่อน<br />
<br />
คิดได้ดังนั้นจึงไปหาซื้อดอกไม้ที่ตลาดแถวบ้าน วางแผนดีมากจนขนาดที่ไม่รู้ว่าร้านอยู่ที่ไหน แต่จะกลัวทำไม เรามีคุณนายจอยแผนที่เทวดา จะไปที่ไหนขอให้บอก ไปครั้งเดียวก็จำได้ละ มารดาข้าพเจ้าเอง เมื่อได้พิกัดมาเรียบร้อยก็ไปยืนจดๆจ้องๆอยู่หน้าร้านขายดอกไม้เพราะไม่รู้จะใช้ดอกไหนอะไรยังไง แต่สุดท้ายก็หลับหูหลับตาหยิบมาทั้งหมดสามชนิด พร้อมกับซื้อกระดาษสา ตาข่ายสี แล้วก็โบว์ 2 ดอก เพราะจัด 2 ช่อ<br />
<br />
กลับมาจากตลาดเย็นนั้นก็เอ้อระเหยลอยชายอยู่สักพัก รอพิรุณพร่ำรัก ละครช่อง 33 HD มาสักพักค่อยเริ่ม เพราะจะได้ตะล่อมให้คุณนายจอยช่วยทำไปด้วยดูละครไปด้วยได้ อิอิ แผนสูง แต่โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบเรื่องนี้ รู้สึกว่าพระเอกนางเอกเล่นแข็งๆ ไม่ชอบไดอะล็อกด้วย แต่คุณนายเขาดูเราก็เปลี่ยนช่องไม่ได้ ตัวละครที่ชอบเรื่องนี้มีอยู่ตัวเดียว ก็คือ คอลลิน เพราะน้องคนที่เล่นน่าตาน่ารักดี ู^^<br />
<br />
ระหว่างดูละครไปก็จัดดอกไม้ไป เหมือนจะดี ดูชิล ดูสโลไลฟ์ แต่พอภาพตัดมาเป็นความจริง มันไม่สวยๆอย่างที่คิด ดอกไม้กระจัดกระจาย ใบไม้เกลื่อนเต็มพื้น ถามว่าจัดเป็นไหม?? ก็ตอบเลยว่า ม่ายยย T^T ถึงจะเรียนกับอาจารย์ยูมาสักพัก แต่พูดเลยว่าทฤษฎีกับปฏิบัติจริงนั้นไม่เหมือนกัน เราก็ได้แต่จัดไปมองไป ซ้ายดี? ขวาดี? บนล่าง เฉียงขึ้นเฉียงลง?? ก็ได้แต่อาศัยความรู้สึกของตัวเองเอาว่าจัดแบบไหนน่าจะดี จัดไปจัดมาก็ได้ออกมา 2 ช่อพอดิบพอดี ดอกไม้แทบไม่พอ 55 ซื้อมาน้อยค่ะ เบี้ยน้อยหอยสังข์ สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการจัดดอกไม้ครั้งนี้คือ ซื้อเอาถูกกว่าและสวยกว่าา!! 555555 เอาน่าา ของเราก็งามไม่หยอกก หราาาา!!<br />
<br />
เอารูปมาอวด!! เอ้ยย.. มาให้ชมค่ะ<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"></td><td style="text-align: center;"></td><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjP7HWWpRWdIoNiER9kvuaValL_C65f3NzYwwsi-4t_8B6CqyOVQA1E919vZ1gYrwvZBjp0nREOEaJvue0RL2CJy6KK0X0poO3bXnlbkQhq6h8syZGtHkZLwk7NOM10BZarnuEgY-UiR2rV/s1600/a.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjP7HWWpRWdIoNiER9kvuaValL_C65f3NzYwwsi-4t_8B6CqyOVQA1E919vZ1gYrwvZBjp0nREOEaJvue0RL2CJy6KK0X0poO3bXnlbkQhq6h8syZGtHkZLwk7NOM10BZarnuEgY-UiR2rV/s320/a.jpg" width="240" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><br /></td></tr>
</tbody></table>
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhWe7H2P1EYJLXsziYGCi-CXbtkf8Uu_lrtZ_hwJSjQNc3T1W9RVYpPL_g_-IzY84qadl0HnmeYVFIDhnFkMUW95d1f4BuehDhns2y5VB7VXLxkmV9WbB6n5xOgXvS2vraCkHgKfE5oR5-T/s1600/aa.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhWe7H2P1EYJLXsziYGCi-CXbtkf8Uu_lrtZ_hwJSjQNc3T1W9RVYpPL_g_-IzY84qadl0HnmeYVFIDhnFkMUW95d1f4BuehDhns2y5VB7VXLxkmV9WbB6n5xOgXvS2vraCkHgKfE5oR5-T/s320/aa.jpg" width="240" /></a></div>
<br />
ถึงทั้งสองช่อจะดูรกยิ่งกว่าป่าอะเมซอน แต่สำหรับการจัดครั้งแรก เราก็ภูมิใจที่สุด มองเองก็สวยเอง ก็ไม่ได้อะไรมาก แค่อวดคนอื่นไปทั่ว 5555 บอกเพื่อนที่ไปทุกคนว่า จะซื้ออะไรก็ซื้อ แต่ไม่ต้องซื้อดอกไม้นะ เดี๋ยวของเราไม่เด่น เป็นไงคะคุณผู้ชมมม ร้ายกว่านี้ก็โสมิกาละค่ะ (จากละครเรื่องเพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ)<br />
<br />
เราไป มศว โดยลง BTS สถานีอโศก แล้วเดินออกประตู 6 เดินมาขึ้น TAXI หน้าซอยสุขุมวิท 23 เพราะคิดว่ารถไม่น่าจะติดมาก แล้วก็ใกล้ มศว กว่าอีกทางนึง แต่ความจริงก็คือ รถก็ติดทุกทางล่ะค่ะ<br />
แต่เราก็ไม่ได้รีบมาก เพราะไปกันประมาณ 5 คน ถ้าสายก็สายกันหมด มีพวกค่ะ (ร้ายไปอีกก)<br />
<br />
เมื่อถึงมหาลัยเราก็เจอกับบรรยากาศไม่ต่างจากที่คิดเท่าไหร่ ซึ่งถ้าใครเคยไปงานรับปริญญาที่ต่างๆก็คงจะพอนึกภาพออก คือคนเยอะมาก เวลาเดินก็ต้องพยามเกาะแข้งเกาะขา มองซ้ายมองขวาเอาไว้ ไม่งั้นอาจจะพลัดหลงกับเพื่อนที่ไปด้วยกันได้ ส่วนสัญญาณโทรศัพท์น้านนน บางค่ายก็ลาหายตายสนิทค่ะ ทางที่ดีก็พยายามอย่าแยกจากเพื่อนดีกว่าเดี๋ยวจะหากันไม่เจอ<br />
<br />
แต่ถึงเราจะไม่หลงกับเพื่อนที่มาด้วยกัน แต่เราก็หาบัณฑิตไม่เจออยู่ดี หลังจากเดินโง่งมอยู่พักใหญ่ก็ได้เจอกับบัณฑิตสุดสวย เราก็ไม่รอช้า รีบเอาดอกไม้ไปอวดทันที ตอนแรกบัณฑิตก็ไม่มีทีท่าอะไรกับดอกไม้ของเรา แต่พอบอกว่าเราจัดเองนะ พร้อมกับยัดเยียดความรู้สึกตื่นเต้นใส่เข้าไป บัณฑิตก็ดูจะตื่นเต้นขึ้นมา แค่นี้ก็พอละ มิชชั่นคอมพลีตเต็ดมากมาก พอเห็นคนชื่นชมกับสิ่งที่เราตั้งใจทำ มันรู้สึกดีใจ ชื่นใจบอกไม่ถูก ถึงเพื่อนทุกคนจะชมตามมารยาทก็ตาม แต่เราก็จะมองข้ามๆไป ถือว่าเขาชมจริงๆละกัน 5555<br />
<br />
เรื่องราวเหมือนจะจบ แต่มันไม่จบอยู่แค่นั้นครัชชชคุณผู้โช้มมมมม ระหว่างเดินตามบัณฑิตสาวสวยไปหาเพื่อนบัณฑิตอีกคน และในระหว่างที่เราเห็นเพื่อนบัณฑิตอีกคนแล้วและกำลังจะเข้าไปทัก สายตาก็ดันไปป๊ะเข้ากับ<u>แฟนเก่า</u>!! เข้าใจคำว่าชะงักกลางอากาศในทันทีค่ะคุณณ <br />
<br />
จริงๆจะเรียกว่าแฟนเก่าก็ไม่ถูกซะทีเดียว ก็เป็นแค่คนที่เคยคุยๆกัน แล้วหายไปจากกันแบบงงๆ อะไรไม่เท่าเพื่อนที่ไปด้วยกัน พร้อมใจกันหันมามองเราบ้าง สะกิดบ้าง ทักบ้างว่าเห้ยๆ ตากล้องอ่ะ แล้วพยักเพยิดให้ดู ความรู้สึกตอนนั้นคืออยากจะบอกเพื่อนมากว่า เห็นนานละค่ะเพื่อน เห็นเป็นอันดับสองรองจากบัณฑิตเลยค่ะ ตอนนั้นก็ทำหน้าไม่ถูก แต่ก็พยายามบอกเพื่อนว่าเฉยไว้ค่ะเพื่อน เฉยไว้ คือเรานี่นิ่งมากทำเหมือนไม่มีอะไร แต่เพื่อนมักจะไม่เป็นอย่างนั้น เสมออ!! เพื่อนมักจะตื่นเต้นกว่าเราเสมอค่ะ แล้วจะหวังให้เพื่อนทำเนียน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา ไม่มีทาง!! ถ้าคุณคิดว่าเพื่อนคุณจะทำตัวโปรเฟสชั่นนอลอย่างคุณได้ล่ะก็ เรื่องนั้นไม่เคยเกิดขึ้นค่ะ!!!!<br />
<br />
จริงๆก็ลังเล ว่าจะเข้าไปทักดีมั้ย หรือจะทำเป็นไม่รู้จักกันดี แต่คิดไปคิดมา เราก็ไม่ได้เกลียดอะไรกัน ถึงเราจะเป็นแฟนกันไม่ได้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้ ของแบบนี้ถ้ามันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ตบมือข้างเดียวกี่ครั้งมันก็ดังไม่ได้ เพลงปานก็มา ==' เราก็เลยคิดว่าจะเข้าไปทัก หลังจากที่ทำเป็นมองไม่เห็นไปพักใหญ่ แต่พอหันไปอีกทีนางก็หายไปละ เอิ่มมม ช้าไปสินะ เข้าทำนอง เมื่อเขามาฉันจะไป!! แต่ฉันยังไม่ได้ไป เธอไปซะงั้น!!<br />
<br />
เรื่องราวก็ผ่านไปแบบงงๆ จริงๆคนที่เคยรู้สึกดีๆต่อกัน เจอกันอีกทีก็น่าจะคุยกันดีๆเนอะ เพราะเราก็คงไม่มีโอกาสได้เจอกันบ่อยมาก การที่เพื่อนของเรารู้จักเราทั้งสองฝ่ายก็คงจะลำบากใจไม่น้อยกับสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้ แต่สำหรับเรา เราโอเคนะที่เธอจะอยู่ตรงนั้น ไม่เห็นต้องหนีหายไปเลย ทำแบบนี้เพื่อนลำบากใจมั้ยล่าา เราไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว เธอก็เป็นแค่ความทรงจำอย่างหนึ่งของเรา ความทรงจำสีจางๆ เลือนลางเต็มที<br />
<br />
การที่เราไม่ใช่สำหรับใครบางคนไม่ได้หมายความว่าเขาหรือเราเป็นคนไม่ดี มีโอกาสเจอกันก็น่าจะยิ้มให้กัน คุยกันซะมากกว่า เพราะว่าเราก็ไม่ได้เกลียดกันนี่เนอะ เราไม่ได้เกลียดเธอนะ หรือเธอเกลียดเรา ไม่นะะ!! ไม่น่าพลาดด!! 555555<br />
<br />
มีโอกาสก็ทำดีต่อกันไว้ดีกว่า เราไม่รู้ว่าชีวิตของเราในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เนอะะะ...<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
ตัวฉัน... เมื่อนึกย้อนไปถึงเรื่องราวที่ผ่านมา<br />
5/6/59 <br />
<br />
<br />
<br />Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/16393642482858948985noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7402167417114215218.post-17190550937405112782016-04-03T20:41:00.000-07:002016-04-03T20:41:51.787-07:00วัยรุ่นมันเหนื่อย!!ช่วงวัยรุ่นถึงวัยทำงานตอนต้นเป็นช่วงวัยที่แบบโคตรพีค!!!เลยอ่ะ<br />
<br />
เรามักจะเคยได้ยินประโยคที่ว่า "เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย!!!"อยู่บ่อยๆ<br />
<br />
แต่ความจริงแล้วเป็นวัยทำงานนั้น "แม่งงง โคตรเหนื่อยยยย"เลยค่ะ<br />
<br />
แต่เอาตามจริงป้ะ ดูไปดูมามันก็เหนื่อยทุกช่วงนั่นล่ะถ้าคิดว่ามันเหนื่อย<br />
<br />
งั้นจริงๆแล้วเราก็ควรจะสนุกกับการใช้ชีวิตดีกว่าเนอะ<br />
<br />
เหนื่อยก็เหนื่อยเส้!! มา!! จะพุ่งชนให้หมดเลยยย!! (ออกแนวบ้าคลั่ง ==)<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
ตัวฉัน... ในเช้าที่ดูมึนๆ ในออฟฟิศที่เปล่าเปลี่ยวและเสียวต้นคอซะเหลือเกิน !!<br />
<br />
4 เมษายน 2559 <br />
<br />
<br />Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/16393642482858948985noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7402167417114215218.post-1921373099726556742016-04-03T03:36:00.000-07:002016-04-03T03:36:02.257-07:00HISTORY OF SOUTHEAST ASIA FROM THE 19TH CENTURY TO THE PRESENT<!--[if gte mso 9]><xml>
<o:OfficeDocumentSettings>
<o:AllowPNG/>
</o:OfficeDocumentSettings>
</xml><![endif]--><br />
<!--[if gte mso 9]><xml>
<w:WordDocument>
<w:View>Normal</w:View>
<w:Zoom>0</w:Zoom>
<w:TrackMoves/>
<w:TrackFormatting/>
<w:PunctuationKerning/>
<w:ValidateAgainstSchemas/>
<w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid>
<w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent>
<w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText>
<w:DoNotPromoteQF/>
<w:LidThemeOther>EN-US</w:LidThemeOther>
<w:LidThemeAsian>X-NONE</w:LidThemeAsian>
<w:LidThemeComplexScript>TH</w:LidThemeComplexScript>
<w:Compatibility>
<w:BreakWrappedTables/>
<w:SnapToGridInCell/>
<w:ApplyBreakingRules/>
<w:WrapTextWithPunct/>
<w:UseAsianBreakRules/>
<w:DontGrowAutofit/>
<w:SplitPgBreakAndParaMark/>
<w:EnableOpenTypeKerning/>
<w:DontFlipMirrorIndents/>
<w:OverrideTableStyleHps/>
</w:Compatibility>
<m:mathPr>
<m:mathFont m:val="Cambria Math"/>
<m:brkBin m:val="before"/>
<m:brkBinSub m:val="--"/>
<m:smallFrac m:val="off"/>
<m:dispDef/>
<m:lMargin m:val="0"/>
<m:rMargin m:val="0"/>
<m:defJc m:val="centerGroup"/>
<m:wrapIndent m:val="1440"/>
<m:intLim m:val="subSup"/>
<m:naryLim m:val="undOvr"/>
</m:mathPr></w:WordDocument>
</xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml>
<w:LatentStyles DefLockedState="false" DefUnhideWhenUsed="true"
DefSemiHidden="true" DefQFormat="false" DefPriority="99"
LatentStyleCount="267">
<w:LsdException Locked="false" Priority="0" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Normal"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="heading 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 7"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 8"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 9"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 7"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 8"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 9"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="35" QFormat="true" Name="caption"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="10" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Title"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="1" Name="Default Paragraph Font"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="11" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtitle"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="22" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Strong"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="20" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Emphasis"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="59" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Table Grid"/>
<w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Placeholder Text"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="1" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="No Spacing"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Revision"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="34" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="List Paragraph"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="29" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Quote"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="30" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Quote"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="19" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Emphasis"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="21" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Emphasis"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="31" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Reference"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="32" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Reference"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="33" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Book Title"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="37" Name="Bibliography"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" QFormat="true" Name="TOC Heading"/>
</w:LatentStyles>
</xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]>
<style>
/* Style Definitions */
table.MsoNormalTable
{mso-style-name:"Table Normal";
mso-tstyle-rowband-size:0;
mso-tstyle-colband-size:0;
mso-style-noshow:yes;
mso-style-priority:99;
mso-style-parent:"";
mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt;
mso-para-margin:0cm;
mso-para-margin-bottom:.0001pt;
mso-pagination:widow-orphan;
font-size:10.0pt;
font-family:"Calibri","sans-serif";
mso-bidi-font-family:"Cordia New";}
</style>
<![endif]-->
<br />
<div class="MsoNormal" style="line-height: normal; text-align: left;">
<span style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt;"> บทความต่อไปนี้ เป็นส่วนหนึ่งของวิชาประวัติศาสตร์ ผู้เขียนเขียนด้วยความรู้และประสบการณ์ชีวิต ณ ช่วงเวลานั้น มีความมึนงง สับสน ในการเขียนอยู่ไม่น้อย >//< ฮ่าๆๆ ประเด็นอาจจะไม่ค่อยเป็นประเด็นเท่าไหร่ จุดประสงค์ตอนนั้นน่าจะเป็นการพยายามบูรณาการความรู้ต่างๆให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับเรื่องที่เรียน งานเขียนจึงออกมาคล้ายๆขนมลอดช่องที่ใส่ทั้งสลิ่ม และทับทิมกรอบ ถึงออกจะแปลกๆสักหน่อย แต่ก็พอกินได้ </span></div>
<div class="MsoNormal" style="line-height: normal; text-align: left;">
<span style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt;"><br /></span></div>
<div class="MsoNormal" style="line-height: normal; text-align: left;">
<span style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt;">พอได้กลับไปอ่านงานเก่าๆ รู้สึกเหมือนได้กลับไปอ่านไดอารี่ของตัวเอง มีความรู้สึกยังไงไม่รู้ 5555 บางขณะก็รู้สึกว่าเราช่างตื้นเขินยิ่งนัก ทำไมคิดอะไรเด็กจังเลย แต่ในบางขณะก็รู้สึกว่า เอ๊ะะ เราคิดแบบนั้นได้ยังไง ลืมความรู้สึกหลายๆอย่างไปแล้ว แต่ความรู้สึกโดยรวมอยู่ในโซนบวกนะ :) </span><br />
<br />
<span style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt;"><span style="font-family: "angsana new" , "serif";">ตัว<span style="font-family: "angsana new" , "serif";">ฉัน<span style="font-family: "angsana new" , "serif";">... <span style="font-family: "angsana new" , "serif";">วันนี้ที่อากาศร้อนมากกว่าเมื่อวาน </span></span></span></span></span><br />
<span style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt;"><span style="font-family: "angsana new" , "serif";"><span style="font-family: "angsana new" , "serif";"><span style="font-family: "angsana new" , "serif";"><span style="font-family: "angsana new" , "serif";">3 <span style="font-family: "angsana new" , "serif";">เม<span style="font-family: "angsana new" , "serif";">ษายน <span style="font-family: "angsana new" , "serif";">2559</span></span></span> </span></span></span></span> </span></div>
<div align="right" class="MsoNormal" style="line-height: normal; text-align: right;">
<br /></div>
<div align="right" class="MsoNormal" style="line-height: normal; text-align: right;">
<br /></div>
<div align="right" class="MsoNormal" style="line-height: normal; text-align: right;">
<br /></div>
<div align="right" class="MsoNormal" style="line-height: normal; text-align: right;">
<br /></div>
<div align="right" class="MsoNormal" style="line-height: normal; text-align: right;">
<span style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt;">HISTORY OF SOUTHEAST
ASIA FROM THE 19TH CENTURY TO THE PRESENT</span></div>
<div align="right" class="MsoNormal" style="line-height: normal; text-align: right;">
<span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt;">ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้คริสต์ศตวรรษที่
</span><span style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt;">19<span lang="TH"> จนถึงปัจจุบัน</span></span></div>
<div align="right" class="MsoNormal" style="line-height: normal; text-align: right;">
<br /></div>
<div align="right" class="MsoNormal" style="line-height: normal; text-align: right;">
<span style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt;"><span lang="TH"><!--[if gte mso 9]><xml>
<o:OfficeDocumentSettings>
<o:AllowPNG/>
</o:OfficeDocumentSettings>
</xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml>
<w:WordDocument>
<w:View>Normal</w:View>
<w:Zoom>0</w:Zoom>
<w:TrackMoves/>
<w:TrackFormatting/>
<w:PunctuationKerning/>
<w:ValidateAgainstSchemas/>
<w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid>
<w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent>
<w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText>
<w:DoNotPromoteQF/>
<w:LidThemeOther>EN-US</w:LidThemeOther>
<w:LidThemeAsian>X-NONE</w:LidThemeAsian>
<w:LidThemeComplexScript>TH</w:LidThemeComplexScript>
<w:Compatibility>
<w:BreakWrappedTables/>
<w:SnapToGridInCell/>
<w:ApplyBreakingRules/>
<w:WrapTextWithPunct/>
<w:UseAsianBreakRules/>
<w:DontGrowAutofit/>
<w:SplitPgBreakAndParaMark/>
<w:EnableOpenTypeKerning/>
<w:DontFlipMirrorIndents/>
<w:OverrideTableStyleHps/>
</w:Compatibility>
<m:mathPr>
<m:mathFont m:val="Cambria Math"/>
<m:brkBin m:val="before"/>
<m:brkBinSub m:val="--"/>
<m:smallFrac m:val="off"/>
<m:dispDef/>
<m:lMargin m:val="0"/>
<m:rMargin m:val="0"/>
<m:defJc m:val="centerGroup"/>
<m:wrapIndent m:val="1440"/>
<m:intLim m:val="subSup"/>
<m:naryLim m:val="undOvr"/>
</m:mathPr></w:WordDocument>
</xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml>
<w:LatentStyles DefLockedState="false" DefUnhideWhenUsed="true"
DefSemiHidden="true" DefQFormat="false" DefPriority="99"
LatentStyleCount="267">
<w:LsdException Locked="false" Priority="0" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Normal"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="heading 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 7"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 8"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 9"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 7"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 8"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 9"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="35" QFormat="true" Name="caption"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="10" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Title"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="1" Name="Default Paragraph Font"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="11" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtitle"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="22" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Strong"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="20" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Emphasis"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="59" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Table Grid"/>
<w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Placeholder Text"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="1" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="No Spacing"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Revision"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="34" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="List Paragraph"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="29" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Quote"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="30" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Quote"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="19" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Emphasis"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="21" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Emphasis"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="31" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Reference"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="32" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Reference"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="33" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Book Title"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="37" Name="Bibliography"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" QFormat="true" Name="TOC Heading"/>
</w:LatentStyles>
</xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]>
<style>
/* Style Definitions */
table.MsoNormalTable
{mso-style-name:"Table Normal";
mso-tstyle-rowband-size:0;
mso-tstyle-colband-size:0;
mso-style-noshow:yes;
mso-style-priority:99;
mso-style-parent:"";
mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt;
mso-para-margin:0cm;
mso-para-margin-bottom:.0001pt;
mso-pagination:widow-orphan;
font-size:10.0pt;
font-family:"Calibri","sans-serif";
mso-bidi-font-family:"Cordia New";}
</style>
<![endif]-->
</span></span></div>
<div align="right" class="MsoNormal" style="text-align: right;">
<br /></div>
<span style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt;"><span lang="TH"></span></span><br />
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt;"><span lang="TH"><span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญมากอีกแห่งหนึ่งของโลก
นับว่าเป็นแหล่งที่มีทรัพยากรธรรมชาติอยู่มากมาย
จึงถือเป็นพื้นที่ที่เหล่าประเทศมหาอำนาจต่างต้องการครอบครองและพยายามช่วงชิงไปจากคนพื้นเมืองมาตั้งแต่อดีต
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่ดูสวยหรูอย่างการเข้าเพื่อต้องการนำความเจริญ นำอารายธรรมมาสู่ภูมิภาคแห่งนี้
หรืออ้างว่าต้องการเข้ามาเผยแผ่ศาสนา โดยกล่าวว่าเป็นภารกิจของคนผิวขาว
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ก็มองได้เพียงอย่างเดียวว่าประเทศมหาอำนาจเหล่านั้นเข้ามาในภูมิภาคแห่งนี้ก็เพื่อความมั่งคั่ง
เพื่อผลประโยชน์ทั้งสิ้น เพราะการที่ได้มีอำนาจเหนือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็เหมือนกับว่าได้ครอบครองแหล่งทรัพย์มหาศาลของโลกนั่นเอง </span></span></span></div>
<span style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt;"><span lang="TH">
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<br /></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">จนแม้กระทั่งปัจจุบันในยุคโลกาภิวัฒน์
ถึงแม้จะไม่ได้มีการเข้ายึดครองหรือครอบครองประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยตรงหรือเห็นได้ชัดเจนเหมือนในยุคล่าอาณานิคมแล้วก็ตาม
แต่เมื่อเราพิจารณาให้ดี การเข้ามามีอิทธิพลของชาติมหาอำนาจในภูมิภาคนี้ในปัจจุบัน
กลับเข้ามาในรูปแบบที่น่ากลัวกว่าเดิมมาก
เพราะเข้ามาแบบไม่ให้ผู้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ทันรู้ตัว ฝังรากลึกจนถึงกระทั่งแม้รู้ตัวก็ยากเกินกว่าจะถอนตัวออกได้ทัน
การเข้ามาในรูปแบบใหม่นี้เข้ามามีอิทธิพลกับชีวิตของผู้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างมาก
เป็นการเข้ามาในรูปแบบของการค่อยๆแทรกซึม ซึมลึก ฝังแน่น
โดยเฉพาะอิทธิพลทางวัฒนธรรมและความคิด และยิ่งในยุคโลกาภิวัฒน์ที่ทุกๆอย่างดูจะเคลื่อนตัวไปได้อย่างรวดเร็ว
ทั่วโลกสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้เพียงแค่กดปุ่ม จึงถือเป็นยุคไร้พรมแดนอย่างแท้จริง
และนั่นทำให้ประเทศมหาอำนาจสามารถป้อน
หรือครอบงำทางความคิดของผู้คนได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะผู้คนในประเทศกำลังพัฒนา </span></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<br /></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">ในหลายๆครั้งเราเห็นถึงการครอบงำทางความคิด
โดยวิธีที่ง่ายและดูจะลงทุนน้อย
และมีการสูญเสียน้อยกว่าการใช้กำลังทหารเข้ายึดครอง(ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็คงแทบจะไม่มีใครทำกันแล้ว)
คือการใช้สื่อ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ โฆษณา เพลง หรือการปลูกฝังค่านิยมบางประการ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราสามารถเห็นได้ชัดเจนในปัจจุบัน
เรามักจะมีค่านิยมบางประการที่ถูกป้อนเข้าหัวสมองตั้งแต่ที่เรายังไม่ทันรู้ประสีประสา
ดังนั้นจะขอยกตัวอย่างง่ายๆซึ่งใกล้ตัว(ผู้เขียน)มาก ก็คือค่านิยมของการที่ผู้หญิงไทยต้องมีผิวขาว
ซึ่งดูจะเป็นแนวคิดหรือความเชื่อที่ขัดกับพันธุกรรมของเราเป็นอย่างมาก แต่เราก็มีความเชื่อ
ความคิดเช่นนี้มาตั้งแต่เด็ก ถ้าผู้หญิงคนไหนผิวคล้ำถือว่าผิดมาก ถือว่าเป็นคนที่ดูด้อยกว่าคนที่มีผิวขาว
ซึ่งความคิดเหล่านี้ฝังรากลึกมานานจนยากที่จะขจัดออกไปได้โดยง่าย
เราถูกซึมซับมาตั้งแต่เด็ก
ทั้งจากภาพยนตร์หรือละครซึ่งน้อยครั้งมากที่นางเอกจะผิวคล้ำ ถึงแม้ผิวคล้ำในตอนแรก
แต่สุดท้ายก็จะกลายเป็นผิวขาวอยู่ดีเนื่องจากนางเอกต้องปลอมตัวเป็นคนใช้เข้าไปในบ้านพระเอก
เพราะฉะนั้นเราจะเห็นได้ว่าการที่มีผิวคล้ำได้ถูกนำเอามาแทนความต่ำ(ชนชั้น)
ความด้อย ความไม่เจริญ หลังจากเรามีชุดความคิดนี้ในขั้นแรกแล้ว
เราก็จะมีความคิดชุดใหม่เกิดขึ้นตามมา คือการต้องการให้ผิวของเราเป็นผิวขาว
เมื่อคิดได้ดังนั้นเราก็จำเป็นที่จะต้องสรรหาวิธีการต่างๆที่จะทำให้เราผิวขาวขึ้น
โดยวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือไปซื้อ ครีมทาผิว </span><span style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">Whitening <span lang="TH">ที่สามารถทำให้สีผิวของเราขาวขึ้นได้
ซึ่งครีมทาผิวเหล่านี้ก็มีขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาด
มีตั้งแต่สิบกว่าบาทจนถึงราคาเป็นพันเป็นหมื่น ซึ่งถ้าเราจะสังเกตหรือฉุกคิดสักนิด
เราจะเห็นได้ว่าผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เร่งผิวขาวเหล่านั้นล้วนมีผู้ผลิตเป็นชาวต่างชาติทั้งสิ้น
ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าเป็นการง่ายของประเทศมหาอำนาจที่จะเข้ามามีอิทธิพล
และสูบเอาผลประโยชน์จากเรา แต่เราก็ไม่สามารถไปโทษ
หรือโยนว่าเป็นความผิดของประเทศเหล่านั้นได้
เพราะสาเหตุที่แท้จริงนั้นก็มาจากตัวเราเองที่ไม่รู้จักพอ เมื่อเกิดความโลภขึ้นมา
สติสัมปชัญญะที่ควรจะมีอยู่ก็ถูกบดบังไปได้อย่างง่ายดาย และเมื่อเราขาดสติรู้ตัว
ก็คงไม่ยากที่จะตกเป็นเหยื่อของคนฉลาด โดยเฉพาะคนที่วางแผนและทำให้เราเดินลงไปยังกับดักนั้นได้อย่างแยบยล
เหมือนนายพรานที่สร้างกับดักเพื่อใช้ดักเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย</span></span></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<br /></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">นอกจากคติความเชื่อเรื่องผิวขาวแล้ว
ผู้เขียนยังอยากจะขอเสนอค่านิยมอีกเรื่องซึ่งผู้เขียนคิดว่าเป็นค่านิยมที่กำลังแพร่หลายในปัจจุบันและเห็นได้ทั่วไป
ค่านิยมนั้นก็คือค่านิยมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อ </span><span style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">iphone
<span lang="TH">ซึ่งค่านิยมนี้เป็นค่านิยมที่เชื่อว่าคนที่ใช้โทรศัพท์ยี่ห้อนี้เป็นคนที่มีฐานะ
ซึ่งก็อาจจะมีส่วนจริงเนื่องจากราคาของเครื่องก็มีราคาสูงอยู่พอสมควร
แต่จากการที่มีวิธีการที่จะซื้อหลายวิธี อย่างเช่นการผ่อนจ่าย
ทำให้ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนที่มีเงินมากเท่านั้นที่จะซื้อได้
คนที่มีฐานะปานกลางก็พอจะซื้อได้เช่นกัน ทำให้ผู้คนทั่วไปอยากจะได้มาเป็นเจ้าของ
โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนมีเพื่อนหลากหลายแบบ ทำให้เห็นว่าในหลายๆครั้ง
เพื่อนของผู้เขียนหลายคนถึงแม้ที่บ้านจะมีฐานะไม่มากนัก แต่ก็ขอเงินพ่อแม่ไปซื้อโทรศัพท์เพียงเพื่อที่จะต้องการให้เข้ากับค่านิยมที่กำลังเป็นไปในปัจจุบัน
โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและผลประโยชน์ที่จะได้รับเป็นเรื่องที่รองลงมา(หรือแทบจะหลังสุด)
ซึ่งสิ่งนี้คงจะเป็นผลของค่านิยมที่เราต่างถูกฝังมา อาจจะจากโฆษณา
เพราะธีมของโฆษณาเองก็จะดูเรียบหรู มีสไตล์ หรือการที่ใช้เหล่าคนรวย
คนดังเป็นพรีเซนเตอร์ หรือเป็นผู้สนับสนุนในละครหลายๆเรื่อง
ทำให้เวลาเราดูละครหรือดูหนังก็จะเห็นจนเป็นเรื่องปกติว่าตัวละครในละครก็ใช้ </span>iphone<span lang="TH"> จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่วัยรุ่นโดยทั่วไปจะถูกปลูกฝังค่านิยมเช่นนี้มา
ถึงแม้ตัวผู้เขียนจะเห็นด้วยกับทฤษฎีที่กล่าวว่ามนุษย์ไม่สามารถอยู่ตัวคนเดียวได้
ดังนั้นมนุษย์ทุกคนจึงต้องการมีตัวตน มียืนในสังคม
แต่การที่จะต้องซื้อโทรศัพท์ราคาแพงเพียงเพื่อที่จะสามารถมีหน้ามีตา
และเข้าไปยืนอยู่ในสังคมได้ก็ดูจะเป็นความคิดที่ได้ไม่คุ้มเสีย แล้วเมื่อลองคิดดูว่าสังคมที่เราจะเข้าไปอยู่หลังจากทำตามค่านิยมบางอย่างโดยไม่คิดแล้ว
คงจะไม่ใช่สังคมที่น่าอภิรมย์เท่าใดนัก</span></span></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<br /></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">อย่างไรก็ตาม
ผู้เขียนไม่ได้ปฏิเสธว่าการรับเอาวัฒนธรรมของต่างชาติเข้ามาเป็นเรื่องที่ผิดหรือไม่ดี
แต่ในปัจจุบัน หลายๆครั้งนั้นเรารับเอามาโดยไม่ทันได้คิดไตร่ตรองให้ดี
ถ้าเราจะรับก็ขอให้รับโดยรู้ตัวและให้ถือว่าได้เลือกสรรอย่างดีที่สุดและเหมาะสมกับตัวเราเองแล้ว
เพราะทุกสิ่งทุกอย่างก็ล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวเอง
แต่ถ้าเราแค่เพียงรับเอาวัฒนธรรมต่างๆหรือทำตามกระแสนิยมโดยคิดเอาเองว่าเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่เขาทำกัน
เราอาจจะไม่ได้รับประโยชน์อันแท้จริงซึ่งซ่อนอยู่ในวัฒนธรรมเหล่านั้นเลย
ซึ่งการรับเอาวัฒนธรรมของต่างชาติเข้าก็มาเป็นเรื่องปกติ
และเราก็เห็นได้จากรากฐานวัฒนธรรมของเราเองซึ่งมีมายาวนาน</span></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<br /></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">เนื่องจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งอยู่ระหว่างขั้ววัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่สองวัฒนธรรม
ซึ่งก็คือวัฒนธรรมของจีน กับวัฒนธรรมอินเดีย ทำให้คงจะเป็นการยากที่จะต้านทานกระแสวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ของสองขั้วมหาอำนาจนี้ได้
เราจึงได้รับรับเอาวัฒนธรรมของทั้งสองวัฒนธรรมนี้มาปรับใช้ในวิถีชีวิตของเรา
แต่การรับเอาวัฒนธรรมทั้งสองวัฒนธรรมในอดีตนั้น
ผู้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รู้จักรับ เรารับอย่างฉลาด
และปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมดั้งเดิมที่มีอยู่แล้ว
อย่างที่เราทราบกันดีว่าการนับถือผีเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนในภูมิภาคนี้เนื่องมาจากการใช้ชีวิตที่ต้องพึ่งพิงธรรมชาติ
ดังนั้นเราจึงเคารพบูชา จ้าวป่า จ้าวเขา หรือผีบรรพบุรุษ เพื่ออย่างน้อยก็ทำให้เราใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติได้อย่างราบรื่น
ไม่หวาดกลัวจนเกินไป แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเรารับเอาศาสนาพุทธจากอินเดีย
หรือลัทธิความเชื่อต่างๆจากจีน เราก็ไม่ได้ละทิ้งความเชื่อดั้งเดิมของเราเอง
แต่กลับมีการปรับใช้ ประยุกต์ให้เข้ากับความเชื่อเดิมของเรา หรือในบางครั้งก็นำมาใช้ส่งเสริมความเชื่อเดิม
อย่างที่เราเห็นได้ในปัจจุบันที่เรายังมีการเคารพนับถือผี นับถือธรรมชาติ
อย่างพระแม่คงคา พระแม่ธรณีอยู่<span style="mso-spacerun: yes;"> </span></span></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<br /></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">นอกจากนี้ผู้เขียนยังเคยมีโอกาสได้ไปลงพื้นที่สัมภาษณ์ชาวบ้านในตลาดศรีประจันต์
ซึ่งเป็นชุมชนการค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี
และได้ไปสัมภาษณ์คุณยายท่านหนึ่งซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายจีน
คุณยายเล่าว่าถึงแม้คุณยายจะถูกสั่งสอนและเติบโตโดยคุณพ่อที่เป็นคนจีนแท้ แต่คุณยายก็ตักบาตรตอนเช้าทุกเช้า
และคุณยายก็ไม่เคยละเลยวัฒนธรรมอันดีงามของคนไทย ซึ่งสิ่งนี้ในส่วนตัวผู้เขียนเองคิดว่ามันก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถสะท้อนให้เห็นว่าผู้คนในภูมิภาคนี้รู้จักปรับตัว
รู้จักนำเอาสิ่งใหม่มาประยุกต์ใช้โดยไม่ละเลยสิ่งเก่า ซึ่งแตกต่างจากในปัจจุบัน
ที่วัยรุ่น โดยเฉพาะวัยรุ่นไทยที่เปิดรับเอาวัฒนธรรมภายนอกอย่างมาก แต่ไม่ได้รู้จักปรับใช้อย่างเช่นเหล่าบรรพบุรุษของเรา
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง
เพราะบางครั้งเรารับวัฒนธรรมภายนอกมากซะจนกระทั่งหลงลืมไปแล้วว่ารากเหง้า
รากฐานที่แท้จริงของเราคืออะไร</span></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<br /></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">ปัญหาเรื่องของการรับวัฒนธรรมจากภายนอกโดยไม่เลือกคัดสรรให้เหมาะสม
ก็ดูจะเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วงในภูมิภาคแห่งนี้เพราะสุ่มเสี่ยงต่อการที่อัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นจะสูญหายไปได้โดยง่าย
แต่ปัญหาจากภายนอกก็ดูจะน่าเป็นห่วงน้อยกว่าปัญหาที่มาจากภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เอง
ดังนั้นอีกหนึ่งปัญหาที่ดูจะน่าเป็นห่วงไม่แพ้กันก็คือปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ซึ่งเป็นปัญหาที่เราพบเห็น และเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานตั้งแต่ในอดีต
อย่างเช่นดินแดนในบริเวณภาคพื้นทวีปก็จะมีปัญหากันระหว่างดินแดนในเรื่องการแย่งชิงผู้คน
เนื่องจากบริเวณภาคพื้นทวีปนั้นมีทรัพยากรอยู่มาก แต่ขาดกำลังคนที่จะใช้ก่อบ้าน
สร้างเมือง หลายครั้งดินแดนใกล้เคียงกันซึ่งไม่ได้มีเส้นเขตแดนที่แน่นอนจึงทำการรบกันเพื่อแย่งชิงดินแดนและทรัพยากรมนุษย์
ซึ่งต่างจากบริเวณกลุ่มเกาะที่มีพื้นที่และทรัพยากรจำกัด
การทำสงครามกันในหลายๆครั้งก็เป็นเพื่อการแย่งชิงพื้นที่และทรัพยากรในการดำรงชีวิต</span></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<br /></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">อย่างไรก็ตามถึงแม้ภายหลังยุคล่าอาณานิคม
จะเกิดประเทศ และมีเส้นเขตแดนของแต่ละประเทศที่แน่นอนแล้วก็ตาม
แต่ปัญหาเรื่องของเขตแดนก็ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน อย่างกรณีที่ใกล้ตัวเราก็คือกรณีพิพาทระหว่างไทยกับเขมรในเรื่องการแย่งชิงพื้นที่บริเวณเขาพระวิหาร
ซึ่งปัญหานี้ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้วและก็ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอยู่ในปัจจุบัน<span style="mso-spacerun: yes;"> </span>หรือไม่ว่าจะเป็นประเด็นการทะเลาะกันเรื่องของรัฐซา-บาห์ระหว่างมาเลเซียกับฟิลิปปินส์ที่บั่นทอนความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศ<span style="mso-spacerun: yes;"> </span>นอกจากนี้ยังมีกรณีปัญหาข้อพิพาทเปดราบรังการะหว่างมาเลเซียกับสิงคโปร์ที่ต่างก็อ้างสิทธิของตัวเองเหนือพื้นที่ขนาดเล็กในทะเลจีนใต้
นอกจากตัวอย่างที่กล่าวมานี้
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมีปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศในอีกหลายๆกรณีด้วยกัน
ซึ่งส่วนใหญ่สาเหตุหลักๆก็น่าจะมาจากการขัดผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน
เพราะแต่ละประเทศในภูมิภาคแห่งนี้มักถือเอาประโยชน์ของประเทศตัวเองเป็นเรื่องสูงสุดที่ควรทำ
ซึ่งในหลายครั้งผลประโยชน์เหล่านั้นก็ไปขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน
อย่างไรก็ดีปัญหาความขัดแย้งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นบ่อนทำลายความเจริญรุ่งเรืองที่หลายฝ่ายต่างก็หวังจะให้เกิดขึ้นในภูมิภาคแห่งนี้
เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือการรีบเร่งหาจุดร่วมหรือแนวทางแก้ไขที่จะทำให้ทุกฝ่ายเกิดความพึงพอใจ
ซึ่งเราก็จะเห็นได้ว่ามีการพยายามการสร้างองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ซึ่งก็ล้วนมีจุดมุ่งหมายที่จะช่วยขจัดและบรรเทาปัญหาความขัดแย้งต่างๆที่เกิดขึ้นภายในภูมิภาคแห่งนี้
ส่วนในเรื่องที่ว่าจะได้ผลดีจริงหรือไม่
ก็คงจะขึ้นอยู่กับความจริงจังและจริงใจของแต่ละประเทศในภูมิภาคแห่งนี้เอง</span></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<br /></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">ซึ่งในประเด็นนี้ผู้เขียนก็มองเห็นภาพความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบันว่าคล้ายคลึงกับการแข่งขันฟุตบอลของทีมทีมหนึ่ง
และสามารถเปรียบได้ว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็คือทีมฟุตบอลหนึ่งทีมที่แต่ละประเทศร่วมกันตั้งขึ้นมา
ซึ่งเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2557 ผู้เขียนได้มีโอกาสนั่งดูฟุตบอลเยาวชนชิงถ้วยของ
</span><span style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">coke
<span lang="TH">ระหว่างสุพรรณบุรีกับบุรีรัมย์
ระหว่างดูการแข่งขันระหว่างสองทีมนี้ก็รู้สึกว่าการที่จะทำให้ทีมฟุตบอลทีมหนึ่งเล่นได้ดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
การที่จะไปให้ถึงฝั่งฝันจำเป็นต้องผ่านการฝึกซ้อม การทำงานร่วมกัน
ผ่านอุปสรรคมากมาย ซึ่งนักฟุตบอลแต่ละคนในทีม
ก็เปรียบเหมือนกับประเทศในแต่ละประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ </span></span></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<br /></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">นอกจากนักแตะแต่ละคนจำเป็นจะต้องเตรียมพร้อมร่างกายให้แข็งแรงแล้ว
นักเตะแต่ละคนก็จำเป็นที่จะต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี
และถ้าหากว่านักเตะแต่ละคนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกัน มีปัญหาความขัดแย้งกัน
ทะเลาะกัน อาจจะทำให้การทำงาน
การประสานงานกันระหว่างนักเตะในทีมก็คงจะไม่มีประสิทธิภาพ
และคงจะส่งผลเสียต่อทีมมากกว่าผลดีแน่นอน อย่างเช่นเมื่อศูนย์หน้าได้เลี้ยงลูกบอลไปใกล้ประตูของฝั่งตรงข้ามเพื่อที่จะทำคะแนน
แต่กลับเก็บลูกบอลไว้เอง
ไม่ยอมส่งบอลให้เพื่อนที่อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าซึ่งสามารถทำคะแนนได้ง่ายกว่าเป็นผู้ทำคะแนน
ผลสุดท้ายก็คือนักบอลคนนั้นตัดสินใจทำประตูเอง แต่ก็ไม่สามารถทำคะแนนได้
ซึ่งก็ทำให้เสียผลประโยชน์ของทีมไป ซึ่งก็เหมือนกันกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในภูมิภาคของเรานั่นเอง
ถ้าเรายังไม่แก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นให้คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นไม่ได้
การพยายามที่จะรวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือองค์กรอื่นๆ
ก็คงจะไม่ประสบผลสำเร็จ ก็คงจะเป็นเหมือนทีมฟุตบอลที่แพ้ในการแข่งขัน และเมื่อเราตกลงใจที่จะรวมกันเป็นทีมแล้ว
ประโยชน์ส่วนตัวก็น่าจะเป็นเรื่องที่รองลงมาจากผลประโยชน์ส่วนรวม
ซึ่งในประเด็นสุดท้ายนี้ก็คิดว่าน่าจะยังคงเป็นไปได้ยากอยู่ที่จะทำให้แต่ละประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ละทิ้งผลประโยชน์ส่วนตัวและเห็นถึงผลประโยชน์แห่งภูมิภาคมาก่อนสิ่งอื่นใด
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางเป็นไปได้ เพียงแค่อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง
และต้องมีตัวกำหนดหรือเงื่อนไขบางประการในการกำกับดูแลเพื่อให้เกิดความร่วมมือเช่นนั้นขึ้น</span></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<br /></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">นอกจากจะได้ข้อคิดในเรื่องของการมองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว
ผู้เขียนยังได้ข้อคิดในการมองชีวิตในแง่มุมอื่นๆเพิ่มขึ้นอีกด้วย เนื่องจากนอกจากการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วย</span><span style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">
Coke<span lang="TH"> ระหว่างบุรีรัมย์และสุพรรณบุรีแล้ว
ผู้เขียนยังมีโอกาสได้ดูฟุตบอลอีกหนึ่งคู่ในตอนกลางคืน คือการแข่งขันระหว่าง
ลิเวอร์พูลกับอาเซนอล ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนชื่นชอบทีมสุพรรณบุรี
และทีมลิเวอร์พูล แต่ผลการแข่งขันของทั้งสองทีมก็คือปรากฏว่าแพ้ทั้งคู่ โดยส่วนตัวในตอนแรกก็รู้สึกว่าผิดหวังมาก
อันที่จริงพอทีมที่ชอบทีมแรกแพ้ก็ยังไม่เท่าไหร่ แต่ก็ผิดหวังนิดๆ
แต่พอทีมที่สองแพ้ก็เลยรู้สึกว่าการผิดหวังซ้ำๆ
สองครั้งในวันเดียวเป็นอะไรที่รับไม่ไหว แต่พอนั่งนิ่งๆคิดทบทวนสักพักก็ได้ข้อคิดอะไรหลายๆอย่างจากการชมการแข่งขันฟุตบอลสองคู่นี้เหมือนกัน
อันดับแรกก็คือไม่ควรตั้งความหวังกับอะไรไว้มากจนเกินไป
ควรตั้งอยู่บนความพอดีและอาศัยหลักการเหตุและผลเป็นตัวช่วยในการวิเคราะห์ตัดสิน
ซึ่งในข้อนี้ถึงแม้จะมีใครหลายๆคนพูดว่าจะไปคาดเดาเอาอะไรได้กับฟุตบอล
ก็แค่ลูกกลมๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วเราสามารถดูโดยใช้การวิเคราะห์เข้าช่วยได้
ถ้าเราปราศจากอคติ ไม่ลำเอียงเข้าข้างทีมใดมากเกินไป
เราก็จะสามารถมองเห็นความจริงแล้วก็แนวโน้มของผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นได้เช่นกัน </span></span></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<br /></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">นอกจากนี้ยังเข้าใจคำว่าสัจจะภาวะที่อาจารย์ชอบพูดถึงมากขึ้น
ซึ่งอันที่จริงก็ไม่แน่ใจว่าเข้าใจมากน้อยแค่ไหน
แต่อย่างน้อยก็คิดได้ว่าไม่ควรจะไปยึดติดกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมากเกินไป
ถึงแม้ทีมที่เราชอบจะแพ้แต่ก็ไม่ได้สูญเสียอะไรไปมากเท่าไหร่
อย่างน้อยในส่วนของทีมเองก็จะได้รับประสบการณ์ ได้เรียนรู้รูปแบบการเล่นแบบใหม่
ได้เรียนรู้ข้อผิดพลาดซึ่งจะสามารถนำเอาไปใช้ปรับปรุงแผนการเล่นในอนาคตให้ดีขึ้นได้
ในส่วนตัวผู้เขียนเองก็ได้ฝึกการอยู่กับความทุกข์นั้นให้ได้ ไม่กระวนกระวาย
แล้วก็คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องธรรมชาติ รู้สึกปล่อยวางกับอะไรหลายๆอย่างมากขึ้น
รู้ซึ้งถึงคำที่ว่า ถ้าถือไว้ก็มีแต่เราที่จะหนักเอง ซึ่งก็คงเอาไปใช้กับการมองภาพประวัติศาสตร์เหตุการณ์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เช่นกัน
ว่าการที่เราจะสามารถเข้าถึงความจริงทางประวัติศาสตร์ให้ได้นั้น
เราควรจะต้องมองอย่างเป็นกลางจริงๆ แล้วก็ปราศจากอคติ ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
จนทำให้เกิดอคติ 4 คือการตัดสินไปเนื่องจากความชอบ หรือความไม่ชอบส่วนตัว
เพราะอย่างที่เรารู้ว่าการเขียนประวัติศาสตร์ของแต่ละประเทศก็ต่างยึดถือชุดความจริงที่แตกต่างกันออกไป
ยกตัวอย่างง่ายๆและใกล้ตัวอย่างเช่นเหตุการณ์ความขัดแย้งสองฝ่ายระหว่างคนเสื้อแดงกับเสื้อเหลืองที่เกิดขึ้นในสังคมไทย
แม้เหตุการณ์ที่กล่าวถึงจะเป็นเหตุการณ์เดียวกัน แต่กลับพูดกันไปคนละด้าน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับทัศนคติ
มุมมอง และความเชื่อที่แต่ละฝ่ายยึดถือนั่นเอง ดังนั้นจะเห็นได้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะเข้าถึงความจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงแม้จะเป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นก็ตาม
ดังนั้นการมองให้เห็นถึงสัจจะภาวะ
มากกว่าการมองไปที่ปรากฏการณ์ก็จะทำให้เราสามารถเข้าถึงความจริงได้ใกล้มากขึ้น</span></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<br /></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ถือเป็นปัญหาที่ควรเร่งแก้ไข
ถ้าเราต้องการที่จะพัฒนาและก้าวเดินไปข้างหน้า
แต่อย่างไรก็ตามนอกจากที่เราควรจะขจัดปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศให้หมดสิ้นไปแล้ว
ปัญหาภายในประเทศก็เป็นสิ่งที่เร่งด่วนไม่แพ้กันที่ควรจะหาทางเยียวยาแก้ไข
ยิ่งโดยเฉพาะในประเทศไทย ที่ปัจจุบันก็ประสบกับปัญหาการแบ่งแยกของผู้คนในสังคม
ซึ่งสร้างรอยร้าว สร้างบาดแผลขึ้นในใจของคนในประเทศไม่น้อย ถึงแม้ปัญหาความขัดแย้งนี้จะเกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว
แต่ผู้เขียนก็เชื่อว่ามีทางออกหลายๆทางที่สามารถแก้ไขปัญหาได้
เพราะถ้าไม่รีบแก้ไขก็คงจะเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกมากขึ้นเรื่อยๆทุกวัน
ในส่วนตัวผู้เขียนแล้วอันดับแรกเลยทุกคนต้องมีความจริงใจต่อกัน
มีความจริงใจต่อประเทศ ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
มองข้ามผลประโยชน์ของตัวเองไป
เพราะเราต้องยอมรับว่าปัญหามากมายที่เกิดขึ้นมาก็เกิดมาจากการที่คนในสังคมมองเห็นผลประโยชน์ของตัวเองสำคัญกว่าส่วนรวม
ซึ่งในส่วนนี้ดูเหมือนจะเป็นความคิดที่เป็นนามธรรมแต่อันที่จริงแล้วเราสามารถทำให้เป็นรูปธรรมได้
แค่ต้องไม่ยึดติดแค่นั้นเอง เราเกิดมาเราก็เกิดมาตัวเปล่า ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้
ดังนั้นเรื่องของวัตถุน่าจะเป็นเรื่องที่รองมาจากเรื่องของคุณค่าด้านจิตใจ</span></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<br /></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">เมื่อทุกคนยึดถือผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลักแล้ว
อันดับต่อมาก็คือการเปิดใจ ใจกว้างยอมรับในความแตกต่าง หลากหลาย
การมองคนที่อยู่ประเทศไทยว่าเป็นคนที่อยู่ในประเทศไทย ไม่มีพวกเขา พวกเรา
ไม่ต้องแบ่งว่า ไทยพุทธ ไทยมุสลิม ไทยเหลือง ไทยแดง ไทยกลาง
แต่ทุกคนก็คือคนเหมือนกัน คนที่อยู่ในประเทศที่เรียกว่าประเทศไทยเหมือนกัน มีความคิด
มีทัศนคติเป็นของตัวเอง และต้องไม่คิดว่าของเราดีกว่าของเขา
ของคนอื่นที่ไม่เหมือนเราด้อยกว่าหรือผิด
เพราะองค์ประกอบของชีวิตของทุกคนก็แตกต่างกันจึงทำให้มีมุมมองในการมองที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว </span></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<br /></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือการไม่รับข่าวสารแค่เพียงด้านเดียว
เพราะหลายครั้งผู้คนต่างตัดสินคนอื่นด้วยความอคติ มองแค่ด้านดีด้านเดียว
หรือด้านไม่ดีด้านเดียว ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การแบ่งพวกเขาพวกเราอย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว
ในประเด็นนี้ผู้เขียนได้มีประสบการณ์ตรง
เนื่องจากคุณแม่เป็นคนที่ชอบรับข่าวสารทางช่อง </span><span style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">Blue sky<span lang="TH"> เป็นอย่างมาก เปิดทุกวันเมื่อกลับถึงบ้าน โดยในส่วนตัวของผู้เขียนคิดว่าเห็นพัฒนาการของคุณแม่ตัวเอง
ที่เริ่มมีอารมณ์ร่วมกับมวลมหาประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่ตอนแรกแทบจะไม่สนใจเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น
แต่ในปัจจุบันรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับมวลมหาประชาชนแทบจะทุกเรื่อง
แต่เป็นการรับรู้ข่าวสารแต่เพียงด้านเดียว
และความรู้สึกที่คิดว่าพวกเขาพวกเราก็มีมากขึ้นตามลำดับ
เพราะฉะนั้นการรับข่าวสารแต่เพียงด้านเดียวก็เป็นสาเหตุสำคัญในการก่อให้เกิดความรู้สึกแบ่งฝั่งแบ่งฝ่ายขึ้น
เพราะฉะนั้นการรับข่าวสารจากหลายๆด้านก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน
ที่จะสามารถลดอคติและความขัดแย้งได้</span></span></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<br /></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">อย่างไรก็ตามวิธีการแก้ไขปัญหาที่ผู้เขียนได้เสนอไปนี้ก็ล้วนเป็นส่วนเล็กๆที่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์ในการช่วยลดบรรเทาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้
อย่างน้อยก็เริ่มที่ตัวเราก่อน
นอกจากนี้ก็ยังมีวิธีการต่างๆอีกมากมายที่มีนักวิชาการหลายๆคนต่างออกมาเสนอเพื่อช่วยให้ประเทศไทยก้าวเดินหน้าข้ามพ้นปัญหาต่างๆไปได้
อย่างไรก็ดีสิ่งที่ต้องการจะเสนอก็คือ เราควรที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในประเทศของเราเสียก่อน
ก่อนที่จะหวังไกล ถึงการรวมเป็นประชาคมอาเซียน เพราะอย่างที่กล่าวไปว่าถ้าหน่วยเล็กๆในหน่วยใหญ่ไม่แข็งแรงแล้วก็คงยากที่หน่วยใหญ่จะมีความมั่นคงแข็งแรงได้
แทนที่จะช่วยพากันเดินไปข้างหน้าอย่างภาคภูมิ อาจจะพากันฉุดดึงถอยหลังก็เป็นไปได้</span></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<br /></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">อย่างไรก็ดีการที่จะทำให้ประเทศไทย
เป็นสังคมที่น่าอยู่ เราก็ควรเริ่มจากตัวเองก่อน เริ่มจากการพัฒนาตัวเอง
มองหาสิ่งที่คิดว่าเรายังบกพร่องและหาทางปรับปรุงแก้ไข
เพื่อให้เรากลายเป็นบุคคลที่ดีขึ้น อย่างน้อยก็จะได้ไม่เป็นภาระของผู้อื่น
รู้จักสิทธิและหน้าที่ของตนเอง ไม่ก้าวก่าย
ทำความเดือดร้อนและเคารพสิทธิของผู้อื่น
เมื่อทุกคนทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดสังคมก็คงจะพัฒนาไปได้โดยง่าย
และเชื่อว่าปัญหาต่างๆในสังคมคงจะลดน้อยลงจนอาจจะไม่เหลืออยู่อีก
และสังคมของเราก็คงจะกลายเป็นสังคมที่มีความสุข และน่าอยู่มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มาก</span></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<br /></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span lang="TH" style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">สุดท้ายนี้ก็อยากจะเสนอเรื่องคุณสมบัติของสังคมที่น่าอยู่อีกประการหนึ่งก็คือ
การเป็นสังคมที่ไม่มีชนชั้น และมีศาลที่ตัดสินอย่างเป็นธรรม
ซึ่งเราจะเห็นได้ในสังคมหลายๆสังคมว่ามีการแบ่งชนชั้นกันอย่างชัดเจน
คนที่อยู่ด้านบนสุดมักจะกดขี่ข่มแหงคนที่อยู่ด้านล่าง
และเมื่อคนที่อยู่ด้านล่างทนไม่ได้ ในที่สุดก็เกิดการปะทุ ระเบิดออกมา
กลายเป็นว่าเกิดความขัดแย้งขึ้นอีกในสังคม
นอกจากนี้การที่ศาลที่ทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินความยุติธรรม
ขาดและไร้ซึ่งความยุติธรรม ตัดสินโดยการบิดเบือนความจริง ย่อมเป็นสิ่งที่สามารถสะท้อนความไร้อารยธรรมของสังคมนั้นได้อย่างชัดเจนว่าย่อมเป็นสังคมที่มีความเจริญทางด้านจิตใจของผู้คนต่ำ
ดังนั้นสังคมที่ดีควรปราศจากสิ่งเหล่านี้ และเพื่อให้เห็นภาพความโหดร้ายของสังคมเช่นนี้
ผู้เขียนขอนำเสนอเพลงของ</span><span style="border: none 1.0pt; color: black; font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%; padding: 0cm;"> Capital Cities <span lang="TH">ชื่อเพลง</span>
Kangaroo Court</span><span style="color: #222222; font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;"> <span lang="TH">ที่นอกจากจะให้ความบันเทิงแล้ง
ยังได้สะท้อนภาพความอยุติธรรมของสังคมเช่นนี้ไว้ในเนื้อเพลง และใน </span>Music
Video <span lang="TH">ได้อย่างชัดเจน</span></span></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span style="color: #222222; font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;"><span lang="TH"><br /></span></span></div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<!--[if gte mso 9]><xml>
<o:OfficeDocumentSettings>
<o:AllowPNG/>
</o:OfficeDocumentSettings>
</xml><![endif]--></div>
</span></span><br />
<br />
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<!--[if gte mso 9]><xml>
<w:WordDocument>
<w:View>Normal</w:View>
<w:Zoom>0</w:Zoom>
<w:TrackMoves/>
<w:TrackFormatting/>
<w:PunctuationKerning/>
<w:ValidateAgainstSchemas/>
<w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid>
<w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent>
<w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText>
<w:DoNotPromoteQF/>
<w:LidThemeOther>EN-US</w:LidThemeOther>
<w:LidThemeAsian>X-NONE</w:LidThemeAsian>
<w:LidThemeComplexScript>TH</w:LidThemeComplexScript>
<w:Compatibility>
<w:BreakWrappedTables/>
<w:SnapToGridInCell/>
<w:ApplyBreakingRules/>
<w:WrapTextWithPunct/>
<w:UseAsianBreakRules/>
<w:DontGrowAutofit/>
<w:SplitPgBreakAndParaMark/>
<w:EnableOpenTypeKerning/>
<w:DontFlipMirrorIndents/>
<w:OverrideTableStyleHps/>
</w:Compatibility>
<m:mathPr>
<m:mathFont m:val="Cambria Math"/>
<m:brkBin m:val="before"/>
<m:brkBinSub m:val="--"/>
<m:smallFrac m:val="off"/>
<m:dispDef/>
<m:lMargin m:val="0"/>
<m:rMargin m:val="0"/>
<m:defJc m:val="centerGroup"/>
<m:wrapIndent m:val="1440"/>
<m:intLim m:val="subSup"/>
<m:naryLim m:val="undOvr"/>
</m:mathPr></w:WordDocument>
</xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml>
<w:LatentStyles DefLockedState="false" DefUnhideWhenUsed="true"
DefSemiHidden="true" DefQFormat="false" DefPriority="99"
LatentStyleCount="267">
<w:LsdException Locked="false" Priority="0" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Normal"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="heading 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 7"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 8"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 9"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 7"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 8"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 9"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="35" QFormat="true" Name="caption"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="10" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Title"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="1" Name="Default Paragraph Font"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="11" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtitle"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="22" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Strong"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="20" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Emphasis"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="59" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Table Grid"/>
<w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Placeholder Text"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="1" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="No Spacing"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Revision"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="34" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="List Paragraph"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="29" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Quote"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="30" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Quote"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="19" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Emphasis"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="21" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Emphasis"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="31" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Reference"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="32" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Reference"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="33" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Book Title"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="37" Name="Bibliography"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" QFormat="true" Name="TOC Heading"/>
</w:LatentStyles>
</xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]>
<style>
/* Style Definitions */
table.MsoNormalTable
{mso-style-name:"Table Normal";
mso-tstyle-rowband-size:0;
mso-tstyle-colband-size:0;
mso-style-noshow:yes;
mso-style-priority:99;
mso-style-parent:"";
mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt;
mso-para-margin:0cm;
mso-para-margin-bottom:.0001pt;
mso-pagination:widow-orphan;
font-size:10.0pt;
font-family:"Calibri","sans-serif";
mso-bidi-font-family:"Cordia New";}
</style>
<![endif]-->
</div>
<div class="MsoNormal" style="text-align: justify; text-indent: 36.0pt; text-justify: inter-cluster;">
<span lang="TH" style="color: #222222; font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">โดยใน </span><span style="color: #222222; font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">MV <span lang="TH">(</span>Music Video<span lang="TH">)
เพลงนี้เริ่มต้นโดยการที่มีตัวละครม้าลาย ต้องการที่จะเข้าไปใน </span></span><span style="border: none 1.0pt; color: black; font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%; padding: 0cm;">Kangaroo Court<span lang="TH">
ซึ่งน่าจะเป็นสถานที่ที่คนชั้นสูงเข้าไปกัน แต่เมื่อพอมาถึงคนคุมประตูก็ไม่ให้เข้าและชี้ให้ดูป้าย</span></span><span lang="TH" style="color: #222222; font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">ที่เขียนว่าห้ามม้าลายเข้า ม้าลายจึงกลับบ้านไปด้วยความผิดหวัง
และได้แต่นั่งเปิดดูโทรทัศน์ ช่องที่เปิดไปก็พบแต่ช่องสารคดี
ที่นำเสนอภาพที่ม้าลายกลายเป็นเหยื่อให้กับเสือหรือสิงโต ม้าลายจึงนำเอาสีมาย้อมใบหน้าของตัวเองให้เหมือนม้าและกลับไปที่
</span><span style="border: none 1.0pt; color: black; font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%; padding: 0cm;">Kangaroo Court<span lang="TH"> อีกครั้ง ครั้งนี้ผู้คุมประตูยอมให้ม้าลายเข้าไป
เมื่อเข้าไปข้างในก็ปรากฏว่ามีสัตว์หลากหลายชนิดสังสรรค์กันอยู่ในนั้น
แต่สุดท้ายแล้วก็มีคนจับได้ว่าม้าลายปลอมตัวมา สุดท้ายจึงถูกจับส่งขึ้นศาล
ศาลก็ตัดสินว่าม้าลายมีความผิด สุดท้ายม้าลายจึงโดนนำตัวไปฆ่า</span></span><span lang="TH" style="color: #222222; font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;"> </span><span style="color: #222222; font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt; line-height: 115%;">MV <span lang="TH">นี้จบด้วยการที่
มีสิงโตตัวหนึ่งอยู่ในภัตตาคารสุดหรู รอรับประทานอาหารอยู่
ซึ่งเมื่อเปิดจานอาหารออกมาก็ปรากฏว่าเป็นเนื้อม้าลายนั่นเอง ซึ่งในเนื้อหาของ </span>MV<span lang="TH"> เพลงนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำของชนชั้นตั้งแต่เริ่มเพลงขึ้นมา
การที่เลือกใช้ม้าลายเป็นสื่อก็น่าจะสื่อให้เห็นถึงความอ่อนแอ
เป็นตัวแทนของการตกเป็นเบี้ยล่าง ถ้าเปรียบเทียบเป็นชนชั้น
ม้าลายตัวนี้ก็คงจะอยู่ในชนชั้นที่ต่ำที่สุด สะท้อนให้เห็นความจริงของสังคมที่ว่า
ความไม่เท่าเทียมกันและความเหลื่อมล้ำนั้นยังคงมีอยู่
และเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่คนในสังคมจะทำให้กันได้
และถึงแม้ม้าลายจะพยายามย้อมสีตัวเองให้กลายเป็นม้า แต่สุดท้ายเมื่อโดนจับได้
ก็ไม่ได้รับโอกาสจากสังคมอยู่ดี ซึ่งเป็นสังคมชั้นสูงนั่นเอง
ซึ่งก็อาจจะเปรียบได้กับการที่คนชนชั้นสูงส่วนมากมักจะเก็บอำนาจเก็บความมั่งคั่งไว้กับตัวเองหรือพวกตัวเองเท่านั้น
ไม่ยอมแบ่ง
หรือกระจายความมั่งคั่งไปสู่คนชนชั้นอื่นเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันแต่อย่างใด
และภาพสุดท้ายของ </span>MV <span lang="TH">ที่สิงโตได้กินเนื้อม้าลายแล้วทำหน้าพึงพอใจเป็นอย่างมาก
ก็สะท้อนว่าคนที่รวยหรือมั่งคั่งส่วนใหญ่มักจะทำผลประโยชน์อยู่บนความทุกข์ของคนอื่น
ซึ่งคงจะไม่ใช่คนรวยหรือชนชั้นสูงทุกคนที่จะเป็นเช่นนี้ แต่ผู้จัดทำ </span>MV <span lang="TH">เพลงนี้ก็คงอยากจะนำเสนอภาพความโหดร้ายของสถานการณ์เช่นนี้
ที่ยังมีอยู่จริงในสังคมปัจจุบัน โดยส่วนตัวผู้เขียนชอบเพลงนี้เพราะคิดว่าสะท้อนให้เราเห็นอะไรได้หลายๆอย่าง
ทั้งความไม่เท่าเทียมกัน ความโหดร้ายที่มีอยู่ในสังคม
แต่การที่เราดูก็ไม่ใช่เพื่อที่จะตอกย้ำความเหลื่อมล้ำความไม่เท่าเทียมแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แต่ก็เพื่อเปิดโลกทัศน์ และสร้างวิสัยทัศน์ใหม่ๆให้เกิดขึ้น เพื่อที่จะได้เรียนรู้
และนำข้อคิดต่างๆที่ได้ทั้งจากการดู </span>MV<span lang="TH"> เพลงนี้ การทำงาน
นำมาช่วยวางแผน หรือกำหนดแนวทางในการใช้ชีวิต
เพื่อที่จะสามารถก้าวเดินไปในอนาคตให้ได้อย่างมั่นคงและหนักแน่น </span></span></div>
<br />
<br />
<div align="right" class="MsoNormal" style="line-height: normal; text-align: right;">
<span style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt;"><span lang="TH"></span></span><span style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt;"><span lang="TH"></span></span><br />
<span style="font-family: "angsana new" , "serif"; font-size: 16.0pt;"><span lang="TH"></span></span></div>
Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/16393642482858948985noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7402167417114215218.post-54578705785904127752016-04-01T23:26:00.002-07:002016-04-01T23:26:38.817-07:00เราทำอะไรอยู่ ?เราทำอะไรอยู่ ?<br />
<div>
<br /></div>
<div>
- นั่นสิ!! เราทำอะไรอยู่?</div>
<div>
<br /></div>
<div>
- ทำไมเราต้องฝืนทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ ?</div>
<div>
<br /></div>
<div>
- ทำไมเราต้องยอมไม่มีความสุขในวันนี้ เพื่อที่จะมีความสุขในวันหน้า? มีความสุขทุกขณะไม่ดีกว่าหรือ?</div>
<div>
<br /></div>
<div>
- เราทำอะไรอยู่อาจไม่สำคัญเท่า เราทำเพื่อ "อะไร" หรือ ทำเพื่อ "ใคร" ใช่ไหม?</div>
<div>
<br /></div>
<div>
- เรากำลังทำสิ่งที่เราควรทำหรือเปล่า? </div>
<div>
<br /></div>
<div>
- เราทำ หรือเราไม่ได้ทำ?</div>
<div>
<br /></div>
<div>
- เราตั้งคำถามเพราะเราลืมเป้าหมาย?</div>
<div>
<br /></div>
<div>
- เราตั้งคำถามเพราะเราเหนื่อย?</div>
<div>
<br /></div>
<div>
- คำตอบมีอยู่ในทุกคำถาม?</div>
<div>
<br /></div>
<div>
- ลองมองดีๆก็จะเจอคำตอบ?</div>
<div>
<br /></div>
<div>
<br /></div>
<div>
เรามักจะถาม ถาม ถาม ถามนู่น ถามนี่ ถามนั่น โวยวาย เหวี่ยง วีน ไม่ฟังใคร ไม่ฟังแม้กระทั่งเสียงของตัวเราเอง</div>
<div>
<br /></div>
<div>
บางครั้งคำตอบของหลายๆคำถาม ก็อยู่ในคำถามนั่นล่ะ</div>
<div>
<br /></div>
<div>
บางครั้งเราอาจจะหลงลืมคำตอบไปบ้าง บางครั้งเราก็รู้คำตอบอยู่แล้วแต่อยากจะเปลี่ยนคำตอบซะเหลือเกิน ถ้ามันเปลี่ยนได้ก็ดี แต่ถ้ามันเปลี่ยนไม่ได้ ก็คงต้องหาคำถามใหม่ เพื่อให้ได้คำตอบที่ต้องการ</div>
<div>
<br /></div>
<div>
เปลี่ยนคำถามได้ด้วยหรอ? ได้สิ! ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? มนุษย์เราก็เป็นอย่างนี้แหละ เปลี่ยนไป เปลี่ยนมาได้ตลอด เปลี่ยนให้พอดีกับตัวเรา แต่อย่าเปลี่ยนจนลืมตัวตนที่แท้จริงไปซะล่ะ!!!</div>
<div>
<br /></div>
<div>
ตัวฉัน... ในวันที่หยุดแต่ก็ยังมานั่งในออฟฟิศใจกลางเมืองกรุงอันแสนวุ่นวาย</div>
<div>
2 เมษายน 2559</div>
<div>
<br /></div>
Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/16393642482858948985noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7402167417114215218.post-28024659334353301712016-03-30T05:26:00.000-07:002016-03-30T05:26:37.302-07:00เริ่มต้น :)ว่าด้วยเรื่องการเริ่มต้นการเขียน Blog เต็มไปด้วยความรู้สึกจริงๆ
ทั้งความหวัง ความมุ่งมั่น รวมไปถึงการทบทวนตัวเอง
ไม่ว่าจะแบบไหนก็ให้ประโยชน์ทั้งนั้น ถึงเล็กน้อยก็คือประโยชน์<br />
<br />
การเขียน Blog ไม่ใช่เรื่องใหม่ ใครๆก็รู็จัก Blog แต่มีน้อยคนที่จะเริ่มเขียน เหตุผลในการเขียน เป้าหมายในการเขียนก็แตกต่างกันไป<br />
<br />
วันนี้
เราจึงเริ่มเขียน เขียนเพื่อแก้เหงา เขียนเพื่อเรียนรู้ เขียนเพื่อเข้าใจ
จริงๆก็กำหนดจุดประสงค์จริงๆไม่ได้ รู้แค่ว่าอยากเขียน!!<br />
<br />
การ
เขียนช่วยอะไรได้หลายอย่าง ที่เราเห็นชัดๆ ค้นพบด้วยตัวเองเลยก็คือ
เวลาที่เราเขียนอะไรบางอย่างโดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเอง
การเขียนจะทำให้เราได้ทบทวน
ได้กลับไปฉุกคิดในเรื่องบางเรื่องที่อาจมองข้ามไป
บางครั้งก็ช่วยแก้ปัญหาหลายๆอย่างที่ก่อนหน้านี้ช่างมืดมัวมองไม่เห็นคำตอบ<br />
<br />
หลาย
ครั้งก็เข้าใจตัวเองมากขึ้นจากการเขียนนี่แหละ ปกติจะเขียนในสมุดบ้าง
ไดอารี่บ้าง เขียนไม่ทุกวันหรอก เขียนบ้าง เลิกเขียนบ้าง
แต่เวลาเครียดๆก็จะเขียน บางครั้งก็เขียนระบายความรู้สึก
บางครั้งก็เขียนเล่าเรื่องดีๆ เขียนออกนอกโลก เขียนอะไรก็เขียนไปเหอะ!! <br />
<br />
ในที่สุดก็ได้เริ่มต้น หวังว่าจะดี หวังว่าจะ happy หวังว่าจะมีความสุข :)<br />
<br />
ตัวฉัน...ในเย็นวันพุธอันอ้างว้างและเหน็บหนาวใน office<br />
30 มีนา 2559<br />
<br />Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/16393642482858948985noreply@blogger.com0